หุ้นไทยวันนี้ 21 ก.ค.66 อ่อนตัวแนวรับ 1,515 / 1,510 จุด กังวลจัดตั้งรัฐบาล

หุ้นไทยวันนี้ 21 ก.ค.66 อ่อนตัวแนวรับ 1,515 / 1,510 จุด กังวลจัดตั้งรัฐบาล

หุ้นไทยวันนี้ 21 ก.ค.66 โบรกคาดอ่อนตัวแนวรับ 1,515 / 1,510 จุด ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนประกอบกับความกังวลความไม่แน่นอนทางการเมืองประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตนายกฯ

หุ้นไทยวันนี้ 21 ก.ค.66 นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,515 / 1,510 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนประกอบกับความกังวลความไม่แน่นอนทางการเมืองประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตนายกฯ นอกจากนี้แรงขายลดความเสี่ยงเพื่อรอผลการประชุม FED และ ECB ในสัปดาห์หน้าจะเป็นแรงกดดันภาวะตลาด ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy ในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวเช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :

  • ADVANC (ปิด 222 ซื้อ/เป้า 250 บาท) การแข่งขันในธุรกิจลดลงช่วยหนุนให้ ARPU และกำไรสุทธิของ ADVANC เพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน 2Q23 นอกจากนี้ ADVANC ยังมีเงินปันผลจ่ายครึ่งปีให้ Dividend yield ประมาณ 1.6-2%
  • CBG (ปิด 69.25 ซื้อ/เป้า 82 บาท) ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากราคาอะลูมิเนียมและน้ำตาลลดลง ส่วนงบ 2Q23 คาดมีกำไรสุทธิ 419 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 59%qoq จากยอดขายที่ฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ และ มาร์จิ้นดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดวานนี้ (20 ก.ค.66)

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม :

(+) BBL แจ้งกำไรสุทธิ 2Q23 ดีเกินคาดเพิ่มขึ้น 11.5%qoq และ 62.2%yoy: BBL มีกำไรสุทธิ 2Q23 ที่ 11,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5%qoq และ 62.2%yoy และมากกว่าที่ BB Consensus คาดไว้ที่ 8.3% เป็นผลจาก NIM เพิ่มขึ้นเป็น 2.91% จาก 2.84% ใน 1Q23 และ 2.24% ใน 2Q22 ขณะที่ NPL ลดลงเป็น 2.9% จาก 3.1% ใน 1Q23

(+/-) ดาวโจนส์บวก 9 วันติด แต่ NASDAQ กลับร่วงแรง: ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 164 จุด (+0.47%) ปิดที่ระดับ 35,225 จุด ตรงกันข้ามกับ NASDAQ กลับลดลง 2.05% เป็นผลจากความต่างของผลประกอบการของบริษัทที่เป็นองค์ประกอบในดัชนีมีความต่างกัน อาทิ J&J และ Tesla

(+/-) สัปดาห์หน้า สัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลาง โฟกัสหลักอยู่ที่ FED Meeting: ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. เราคงมุมมองเดิมคาด FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 5.5% อย่างไรก็ตามเราคาดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลกับตลาดจำกัดเนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดคาดไว้อยู่แล้ว ดังนั้นความสำคัญในครั้งนี้จึงอยู่ที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดหลังการประชุมว่าจะส่งสัญญาณในการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยอย่างไร