หวั่นการเมืองทุบ ‘หุ้นไทย’ ดิ่ง โบรกมองดัชนีผันผวนระยะสั้น

ทันทีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ประกาศเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน เพื่อรอศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัย 16 ส.ค.นี้ ส่งผลให้ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (3 ส.ค.) ปรับตัวลงลึกโดยทำจุดต่ำสุดของวัน 21.65 จุด ก่อนมาปิดตลาดอยู่ที่ 21.27 จุด ระดับ 1,529.01 จุด หรือลดลง 1.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 51,112.38 ล้านบาท ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศยังกดดัน กรณีที่ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลงตอบสนองเชิงลบ หลังฟิตช์เรตติ้งปรับลดความน่าเชื่อถือสหรัฐ  

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับลงซึ่งมาจากปัจจัยในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความไม่ชัดเจน ส่งผลเชิงลบต่อเซ็นทริเม้นต์การลงทุนและภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก 

โดยเซ็นทริเม้นต์การลงทุนเป็นหนึ่งในปัจจัยกระทบให้ราคาหุ้นไอพีโอไม่สดใส และเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้นที่บริษัทจะใช้ตัดสินใจนำบริษัทเข้าระดมทุน เพราะยังประกอบอีก 2 ส่วนสำคัญ คือ ความพร้อมของบริษัททั้งเรื่อง ข้อมูลไฟลิ่ง , ระบบบัญชี และ ความจำเป็นในการระดมทุน ซึ่งในสองส่วนนี้ยังพบบริษัทหลายๆ แห่งที่จะเข้าระดมทุนจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นปีนี้ ขณะนี้ยังเข้ามาเตรียมความพร้อมเป็นปกติ 

ดังนั้น หลังจากนี้ ทางตลท. ยังคงดำเนินงานตามแผนงานและทำระบบต่างๆ ให้รวดเร็ว ไม่ติดขัด พร้อมรองรับความต้องการของบริษัทที่ต้องการนำหุ้นเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น และยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ซึ่งในปี 2566 มีจำนวนบริษัทและมาร์เก็ตแคปที่เตรียมจะเข้ามาออกหุ้น IPO ทั้งใน SET และ mai มากกว่าปีที่ผ่านมา 

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในไทยถูกเลื่อนออกไปทั้งหมด และยังอยู่ในโหมดรอความชัดเจน มองอาจส่งผลกระทบตลาดหุ้นไทยระยะสั้น ซึ่งมองแนวต้าน 1,550 จุด และแนวรับ 1,520 จุด น่าจะประคองอยู่ได้ ขณะที่หุ้นกลุ่มอิงปัจจัยภายใน หรือ กลุ่มถ่วงจากการเมืองที่ทยอยรีบาวน์ขึ้นมามีโอกาสถูกขายลดเสี่ยงระยะสั้นให้รอตั้งรับ

ด้านเชิงกลยุทธ์ระยะสั้น แนะนำมองสลับกลุ่มอิงภายในไปลงทุนยัง 3 กลุ่มหุ้น ได้แก่ 1.กลุ่ม Global plays (น้ำมัน, โรงกลั่น, ชิ้นส่วน) ภายใต้ภาพเศรษฐกิจโลกยังแข็งแกร่ง ล่าสุด ยอดจ้างงานสหรัฐดียังอยู่ในเกณฑ์ดี ยุโรปจีดีพีไตรมาส 2 ปี 2566 เบื้องต้นสูงกว่าคาด ค่าการกลั่นปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (PTT, TOP, HANA)

2. กลุ่มปลอดภัย หรือ  Defensive  (BDMS , BCH) ที่มองนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางเริ่มมีสัญญาณสร้าง S Curve การโตรอบใหม่ และกลุ่มคาดกำไรไตรมาส 2 ปี 2566 จะดี (ADVANC, WHA, ICHI, BE8, BBIK) 

นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงตามคาด หลังเจอปัจจัยกดดันทั้งจากในและต่างประเทศ และมองดัชนีฯ ปรับฐานต่อหลังสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะสุญญากาศอีกครั้ง โดยต้องรออีกเกือบ 2 สัปดาห์ถึงจะรู้ผลมติศาลรัฐธรรมนูญ และก็ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะสามารถโหวตเลือกนายกได้ก่อนหรือไม่และพรรคใดเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งจะได้เสียงสนับสนุนจากทาง สว. เพียงพอหรือไม่ 

ดังนั้น มองกรอบดัชนีหุ้นไทยระยะสั้นแนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,550 จุด ระหว่างรอพิจารณาทิศทางการเมืองระยะถัดไป ท่ามกลางภาวะตลาดปิดรับความเสี่ยง แนะนำ พักเงินในหุ้นกลุ่มปันผลสูงราคาหุ้นผันผวนต่ำ (AP ,LH, ADVANC,SCB)