เปิดพอร์ต 9 เซียนหุ้น นักลงทุนคนรุ่นใหม่ มั่งคั่งรวมกัน 8.28 พันล้านบาท

เปิดพอร์ต 9 เซียนหุ้น นักลงทุนคนรุ่นใหม่ มั่งคั่งรวมกัน 8.28 พันล้านบาท

เปิดพอร์ต 9 เซียนหุ้น นักลงทุนคนรุ่นใหม่ มีพอร์ตรวมกันกว่า 8,276.16 ล้านบาท "เซียนฮง" ถือหุ้นใหญ่ 6 หลักทรัพย์ มีมูลค่าพอร์ตมากสุดเฉียด 3,000 ล้านบาท ขณะที่ "ไฮโซนัท" ทายาทแห่ง ตระกูล "จุฬางกูร" ถือหุ้นใหญ่ 15 หลักทรัพย์ มีมูลค่าพอร์ตกว่า 2,656 ล้านบาท

นักลงทุนในตลาดหุ้นแยกย่อยเป็นหลายประเภท ทั้งนักลงทุนสายพื้นฐาน (VI)  นักลงทุนสายเทคนิค (Technical) และนักลงทุนที่ใช้องค์ความรู้ทั้งพื้นฐานและเทคนิค ซึ่งนักลงทุนคนรุ่นใหม่ปัจจุบันมีความรอบรู้ทุกแขนง และมีความเชี่ยวชาญในทุกมิติ 

“กรุงเทธพธุรกิจ” ได้สำรวจนักลงทุนคนรุ่นใหม่ พบว่า มีด้วยกัน 9 เซียนหุ้น มีพอร์ตรวมกัน 8,276.16 ล้านบาท

เปิดพอร์ต 9 เซียนหุ้น นักลงทุนคนรุ่นใหม่

  1. เซียนฮง - สถาพร งามเรืองพงศ์ 

นักลงทุนอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่มีพอร์ตลงทุนมูลค่าหลายพันล้านบาท จากการก้าวเข้าสู่เส้นทางการในตลาดหุ้นช่วงปี 2547 ด้วยเงินลงทุนเพียง 100,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงที่เซียนฮง ยังเป็นนักศึกษาปี 1 ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และจากวันนั้นถึงวันนี้ประสบการณ์ที่สั่งสมเกือบ 20 ปี จนได้รับฉายาว่าเป็น “เซียนหุ้นอัจฉริยะ” 

ปัจจุบันเซียนฮง ปรากฎรายชื่อเข้าถือหุ้นใหญ่ 6 หลักทรัพย์ มูลค่ารวม 2,973.69 ล้านบาท 

- บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) BE8

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3  
  • จำนวน 20,300,060 หุ้น หรือ 7.67%
  • มีมูลค่า 913.50 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 45.00 บาท)

- บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) BVG

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8 
  • จำนวน 5,100,000 หุ้น หรือ 1.13%
  • มีมูลค่า 27.54 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 5.40 บาท)

- บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) DITTO

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 
  • จำนวน 48,656,420 หุ้น หรือ 9.21%
  • มีมูลค่า 1,629.99 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 33.50 บาท)

- บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) KCC

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 
  • จำนวน 5,438,700 หุ้น หรือ 0.88%
  • มีมูลค่า 31.54 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 5.80 บาท)

- บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) MICRO

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 
  • จำนวน 26,757,400 หุ้น หรือ 2.86%
  • มีมูลค่า 81.87 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 3.06 บาท)

- บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) TEAMG

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2  
  • จำนวน 39,622,600 หุ้น หรือ 5.83%
  • มีมูลค่า 289.24 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 7.30 บาท)

 

  1. ณัฐพล จุฬางกูร หรือ ไฮโซนัท 

ทายาทคนที่ 3 ของมหาเศรษฐีตระกูล “จุฬางกูร” โดยผู้เป็นพ่ออย่าง สรรเสริญ และหทัยรัตน์ จุฬางกูร ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเครือซัมมิท คอร์ปอเรชั่น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ มูลค่าธุรกิจกว่าแสนล้านบาท 

ปัจจุบัน “ไฮโซนัท” เป็นหนึ่งในผู้บริหารเครือซัมมิท กรุ๊ป ที่ดูแลทั้งธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ คือ ตึก Ample Tower ที่เปิดเป็นสำนักงานให้เช่า สนามกอล์ฟ 2 แห่ง คือ สนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์ กอล์ฟ คลับ บางนา และ สนามกอล์ฟ ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ คันทรี เชียงใหม่ และโรงเรียนนานาชาติ Berkeley นอกจากนีี้ยังมีธุรกิจโรงแรมอีกด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้น พบว่า

“ไฮโซนัท” ปรากฎเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยกัน 15 หลักทรัพย์มูลกว่า 2,656.38 ล้านบาท 

- บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) AF

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 4  
  • จำนวน 65,820,100 หุ้น หรือ 4.11%
  • มีมูลค่า 77.66 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.18 บาท)

- บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) AIRA

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5  
  • จำนวน 300,000,000 หุ้น หรือ 4.75%
  • มีมูลค่า 567.00 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 22 ส.ค.66 ที่ 1.89 บาท)

- บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) FN

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 
  • จำนวน 26,684,500 หุ้น หรือ 2.67%
  • มีมูลค่า 44.02 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.65 บาท)

- บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) GRAMMY

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 
  • จำนวน 81,122,700 หุ้น หรือ 9.89%
  • มีมูลค่า 742.27 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 9.15 บาท)

- บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) GSTEEL (ติดเครื่องหมาย SP และ NC)

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 10  
  • จำนวน 402.87 หุ้น หรือ 1.39%

- บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) LOXLEY

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5  
  • จำนวน 86,239,500 หุ้น หรือ 3.81%
  • มีมูลค่า 161.26 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.87 บาท)

- บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) MODERN

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2 
  • จำนวน 53,914,500 หุ้น หรือ 7.19%
  • มีมูลค่า 156.35 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.90 บาท)

- บริษัท มัด แอนด์ ฮาวด์ จำกัด (มหาชน) MUD

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5  
  • จำนวน 13,476,400 หุ้น หรือ 1.28%
  • มีมูลค่า 30.18 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.24 บาท)

- บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) NEP

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 
  • จำนวน 270,554,600 หุ้น หรือ 11.63%
  • มีมูลค่า 45.99 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 0.17 บาท)

- บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) NNCL

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3  
  • จำนวน 182,234,800 หุ้น หรือ 8.90%
  • มีมูลค่า 364.46 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.00 บาท)

- บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) NOK  (ติดเครื่องหมาย SP NC และ NP) 

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2   
  • จำนวน 972.10 หุ้น หรือ 26.07%

- บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ONEE

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 10  
  • จำนวน 23,295,100 หุ้น หรือ 0.98%
  • มีมูลค่า 104.36 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 4.48 บาท)

- บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ROJNA

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7 
  • จำนวน 42,800,000 หุ้น หรือ 2.12%
  • มีมูลค่า 250.38 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 5.85 บาท)

- บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) SDC

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2  
  • จำนวน 220,594,700 หุ้น หรือ 1.49%
  • มีมูลค่า 13.23 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 0.06 บาท)

- บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) SE-ED

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 4 
  • จำนวน 44,671,300 หุ้น หรือ 11.40%
  • มีมูลค่า 99.17 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.22 บาท)

 

  1. พะเนียง พงษธา หรือ ไม้ฟืน

นักลงทุนสาย VI ใช้เวลา 6 ปีในการลงทุน เริ่มต้น 30,000 บาท กลายมาเป็นนักลงทุนเจ้าของพอร์ตหลัก 100 ล้านบาท 

ปัจจุบัน “ไม้ฟืน” ปรากฎรายชื่อถือหุ้นใหญ่ 4 หลักทรัพย์ รวมมูลค่า 1,099.22 ล้านบาท 

- บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) AU 

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5
  • จำนวน 25,825,700 หุ้น หรือ 3.17%
  • มีมูลค่า 273.75 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 10.60 บาท)

- บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน)  AURA

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8
  • จำนวน 27,714,900 หุ้น หรือ 2.08%
  • มีมูลค่า 485.01 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 17.50 บาท)

- บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) BIS 

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2 
  • จำนวน 30,000,000 หุ้น หรือ 9.55%
  • มีมูลค่า 171.00 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 5.70 บาท)

- บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) RBF 

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9 
  • จำนวน 14,608,900 หุ้น หรือ 0.73%
  • มีมูลค่า 169.46 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 11.60 บาท)

 

  1. วีรวัฒน์ วลัยเสถียร หรือ ดิว

บุตรชายคนเล็กของ สุวรรณ วลัยเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบันประสบความสำเร็จจากธุรกิจส่งออกปลา ที่มีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และผู้ที่ชื่นชอบสะสมรถซูเปอร์คาร์ที่มีกว่า 60 คัน

ปัจจุบันพบว่า “ดิว” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TISCO ลำดับ 9 จำนวน 8,600,000 หุ้น หรือ 1.07% มีมูลค่า 860.00 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 100.00 บาท)

 

  1. บอย ท่าพระจันทร์ หรือ อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย

เซียนพระชื่อดังที่ได้เข้ามาในวงการหุ้นด้วยการเป็นนักลงทุนสายเทคนิคอล 

ปัจจุบัน “บอย ท่าพระจันทร์” ปรากฎเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 หลักทรัพย์ มูลค่า 304.94 ล้านบาท 

- บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) DPAINT

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7  
  • จำนวน 7,690,000 หุ้น หรือ 3.34%
  • มีมูลค่า 41.91 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 5.45 บาท)

- บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) MGC

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9  
  • จำนวน 12,024,400 หุ้น หรือ 1.07%
  • มีมูลค่า 104.01 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 8.65 บาท)

- บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) PRTR

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 
  • จำนวน 24,465,000 หุ้น หรือ 4.08%
  • มีมูลค่า 159.02 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 6.50 บาท)

 

  1. ภาววิทย์ กลิ่นประทุม หรือ แพท

ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาการลงทุนของ บริษัท หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และยังเป็นหลานปู่ของนักนักการเมืองชื่อดัง ทวิช กลิ่นประทุม

ทั้งนี้ “แพท” เริ่มเข้าสู่การลงทุนในตลาดหุ้นช่วงปี 2550 เป็นช่วงจังหวะที่ต้องประสบกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ จากที่ตลาดดีดตัวจุดสูงสุดกลับดิ่งลงมาอยู่ที่ระดับ 300 จุด ทำให้ในช่วงนั้นเขาต้องเจ็บปวดกับการขาดทุน แต่ปัจจุบัน “แพท” ปรากฎเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 13 หลักทรัพย์ รวมมูลค่ากว่า 161.70 ล้านบาท 

- บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) ASAP

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9 
  • จำนวน 4,300,000 หุ้น หรือ 0.59%
  • มีมูลค่า 10.49 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.44 บาท)

- บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) BR

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9  
  • จำนวน 10,500,000 หุ้น หรือ 1.15%
  • มีมูลค่า 28.56 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.72 บาท)

- บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) GCAP

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8 
  • จำนวน 4,000,000 หุ้น หรือ 1.07%
  • มีมูลค่า 3,.52 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 0.88 บาท)

- บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) IP

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7 
  • จำนวน 4,800,000 หุ้น หรือ 1.29%
  • มีมูลค่า 48.48 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 10.10 บาท)

- บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) KASET

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9 
  • จำนวน 2,000,000 หุ้น หรือ 0.72%
  • มีมูลค่า 3.02 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.51 บาท)

- บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) LIT

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7 
  • จำนวน 4,500,000 หุ้น หรือ 1.02%
  • มีมูลค่า 5.40 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.20 บาท)

- บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) NDR

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 
  • จำนวน 3,035,000 หุ้น หรือ 0.87%
  • มีมูลค่า 4.67 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.54 บาท)

- บริษัท พรีเมียร์ โพรดักส์ จำกัด (มหาชน) PPP

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8 
  • จำนวน 2,650,000 หุ้น หรือ 0.88%
  • มีมูลค่า 4.87 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.84 บาท)

- บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) SKE

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9  
  • จำนวน 5,200,000 หุ้น หรือ 0.47%
  • มีมูลค่า 2.70 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 0.52 บาท)

- บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) SORKON

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7  
  • จำนวน 7,000,000 หุ้น หรือ 2.16%
  • มีมูลค่า 33.18 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 4.74 บาท)

- บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ จำกัด (มหาชน) STC

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 8  
  • จำนวน 5,000,000 หุ้น หรือ 0.88%
  • มีมูลค่า 3.45 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 0.69 บาท)

- บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) TM

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9  
  • จำนวน 2,900,000 หุ้น หรือ 0.94%
  • มีมูลค่า 6.49 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 2.24 บาท)

- บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) WINMED

  • ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 9 
  • จำนวน 2,065,000 หุ้น หรือ 0.52%
  • มีมูลค่า 6.85 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 3.32 บาท)

 

  1. ภสุ วชิรพงศ์ หรือ แม๊ก 

สามี มาดามหลุยส์ เตชะอุบล นักธุรกิจสาวสาวซึ่งเป็น ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัทอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างระดับบิ๊กของเมืองไทย และบริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจอาหารและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นหลานของ “เสี่ยยักษ์” เซียนหุ้นชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย 

ปัจจุบัน “แม๊ก” ถือหุ้นใหญ่ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) GLOCON ลำดับ 3 จำนวน 230,400,000 หุ้น หรือ 7.49% มีมูลค่า 99.07 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 0.43 บาท)

 

  1. ธำรงชัย เอกอมรวงศ์

หรือรู้จักกันในนาม “หยงเกิดมาเทรด หรือ หยง FreedomTrader หรือ หยง Monkey Trader” เป็นอีกหนึ่งนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี กับการเทรดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในไทยและต่างประเทศ 

ในอดีต “หยง” เคยเป็นถึงผู้บริหารระดับจูเนียร์ ดูแลงานด้านการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง โดยปัจจุบันเริ่มก้าวเข้าสู่วงการตลาดทุนในฐานะเทรดเดอร์อย่างเต็มตัว 

ปัจจุบันพบว่า “หยง” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ลำดับ 5 จำนวน 6,104,899 หุ้น หรือ 1.64% มีมูลค่า 61.65 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 10.10 บาท)

 

  1. ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ หรือ เสี่ยไรซ์ 

เป็นเซียนหุ้นคนรุ่นใหม่ เน้นนักลงทุนหุ้นมูลค่า Value Investment หรือ วีไอ ที่มีต้นแบบการลงทุนแบบวอร์เรน บัฟเฟต เป็นหลัก นอกจากนี้เขายังเคยสร้างสถิติพอร์ตการลงทุนเกือบหนึ่งหมื่นล้านบาท

ปัจจุบันเสี่ยไรซ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC ลำดับ 2 จำนวน 40,178,700 หุ้น หรือ 9.76% มีมูลค่า 59.46 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 23 ส.ค.66 ที่ 1.48 บาท)

 

เปิดพอร์ต 9 เซียนหุ้น นักลงทุนคนรุ่นใหม่ มั่งคั่งรวมกัน 8.28 พันล้านบาท