ผ่า 12 หุ้น สังกัดกระทรวงพลังงาน มูลค่ามั่งคั่งระดับ 9.38 แสนล้านบาท
ผ่า 12 หุ้น สังกัดกระทรวงพลังงาน โดย กฟผ. และ ปตท. เข้าลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวม 12 หลักทรัพย์ มีมูลค่ามั่งคั่งระดับ 938,474.95 ล้านบาท
‘กระทรวงพลังงาน’ กระทรวงเกรดเอ ที่นักการเมืองทุกค่ายต่างหมายปอง ถ้าไม่พลิกโผ ‘บิ๊กตุ๋ย - พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงแม้กระทรวงนี้งบประมาณประจำปีจะไม่สูง และมีหน่วยงานในสังกัดไม่มากนัก แต่ทว่ามี 2 รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล คือ 1.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ 2.บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งรัฐวิสาหกิจ ทั้ง 2 แห่งนี้เข้าไปลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวม 12 หลักทรัพย์ มีมูลค่ามั่งคั่งระดับ 938,474.95 ล้านบาท
1.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 1,332,955,135 หุ้น หรือ 47.27% มูลค่า 72,646.05 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 54.50 บาท)
2.บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) IRPC
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 9,206,674,600 หุ้น หรือ 45.05% มูลค่า 22,096.01 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 2.40 บาท)
3.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) OR รวมมูลค่า 188,385.39 ล้านบาท
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 9,000,000,000 หุ้น หรือ 75.00% มูลค่า 187,200.00 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 20.80 บาท)
- สหกรณ์ออมทรัพย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 7 จำนวน 56,990,200 หุ้น หรือ 0.47% มูลค่า 1,185.39 ล้านบาท
4.บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 2,532,340,489 หุ้น หรือ 63.79% มูลค่า 405,174.47 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 160.00 บาท)
5.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) PTTGC
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 2,037,220,915 หุ้น หรือ 45.18% มูลค่า 76,395.78 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 37.50 บาท)
6.บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) TIPH
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 80,000,000 หุ้น หรือ 13.46% มูลค่า 3,240.00 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 40.50 บาท)
7.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 1,005,920,239 หุ้น หรือ 45.03% มูลค่า 53,062.29 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 52.75 บาท)
8.บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) EGCO รวมมูลค่า 56,845.78 ล้านบาท
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 133,773,662 หุ้น หรือ 25.41% มูลค่า 53,062.29 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 136.50 บาท)
- สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 27,717,900 หุ้น หรือ 5.26% มูลค่า 3,783.49 ล้านบาท
9.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB
- สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 418,620,500 หุ้น หรือ 3.00% มูลค่า 8,121.23 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 19.40 บาท)
10.บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) MEB
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ถือหุ้นใหญ่อันดับ 10 จำนวน 1,425,800 หุ้น หรือ 0.48% มูลค่า 52.04 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 36.50 บาท)
11.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT
- สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 9 จำนวน 348,998,700 หุ้น หรือ 1.22% มูลค่า 12,476.70 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 35.75 บาท)
12.บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) RATCH รวมมูลค่า 39,979.16 ล้านบาท
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 978,750,000 หุ้น หรือ 45.00% มูลค่า 35,479.68 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ส.ค.66 ที่ 36.25 บาท)
- สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 จำนวน 114,592,893 หุ้น หรือ 5.27% มูลค่า 4,153.99 ล้านบาท
- สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด โดย บลจ.กสิกรไทย จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 10 จำนวน 9,530,609 หุ้น หรือ 0.44% มูลค่า 345.48 ล้านบาท
สำหรับประวัติของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
เกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 ชื่อเล่น ตุ๋ย เป็นบุตรของ พลโท ณรงค์ สาลีรัฐวิภาค อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์และเจ้ากรมการพลังงานทหาร และโสภาพรรณ สาลีรัฐวิภาค (นามสกุลเดิม สุมาวงศ์) อดีตดาวจุฬาฯ คนแรก ส่วนชีวิตครอบครัว สมรสกับ สุนงค์ สาลีรัฐวิภาค (นามสกุลเดิม โทณวณิก) มีบุตรธิดารวมกันทั้งหมด 4 คน
ด้านการศึกษา พีระพันธุ์ เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเดียวกับ “บิ๊กป้อม” จากนั้น เรียนต่อปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบเนติบัณฑิตไทย ที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา จบปริญญาโท กฎหมายอเมริกันทั่วไป (LLM) และเรียนปริญญาโทอีกใบ ด้านกฎหมายเปรียบเทียบ (MCL) ที่มหาวิทยาลัยทูเลน สหรัฐอเมริกา
ส่วนประสบการณ์ด้านการทำงานเคยเป็นผู้พิพากษาและข้าราชการตุลาการมาก่อนเข้าสู่สนามการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมทีมกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น สส.เขต 3 กรุงเทพมหานคร เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นฝ่ายค้าน ในปี 2550 และได้รับการถูกรับเลือกให้ทำหน้าที่เป็น รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเงา และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
สำหรับผลงานอันโดดเด่น คือ การสอบสวนการทุจริตค่าโง่ทางด่วน 6,200 ล้านบาท ซึ่งถูกนำไปใช้ในการต่อสู้คดีในชั้นศาลและประสบชัยชนะ ทำให้คนไทยไม่ต้องจ่ายค่าโง่พร้อมดอกเบี้ยนับหมื่นล้านบาท
ส่วนจุดพลิกผันทางการเมือง เกิดขึ้นเมื่อครั้งพรรคประชาธิปัตย์ ทำการเลือกหัวหน้าพรรค และช่วงวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562 พีระพันธุ์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งพีระพันธุ์ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565 พีระพันธุ์ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์