'อีสท์สปริง' จ่อขายทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทย ES-TEQ6M1เป้า 5% ใน 6 เดือน
'บลจ.อีสท์สปริง' ชี้ 'หุ้นไทย'ลงต่อเนื่องถึงจุดน่าสนใจ เตรียมเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทย"ES-TEQ6M1" วันที่ 16 ต.ค.นี้ ตั้งเป้าหมาย 5% ภายใน 6 เดือน รวมมูลค่าโครงการ "พันล้าน"
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง มองว่า valuation อยู่ในจุดที่น่าสนใจ ณ ระดับราคาปัจจุบัน SET index ซื้อขายอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยระยะยาว P/E 16.5 เท่า (ข้อมูล Bloomberg ณ 30 กันยายน 2566)
โดยบลจ.อีสท์สปริง เล็งเห็นโอกาสupside ที่เพิ่มมากขึ้นจากการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยในการลงทุนประกอบกับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2024 ที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ดังนั้นจึงได้เปิดตัวกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทย เพื่อจับจังหวะลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานที่ดี คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง ไทย อิควิตี้ทริกเกอร์ 6M1(ES-TEQ6M1) โดยตั้งเป้าหมาย 5% ภายใน 6 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกจนถึงวันที่ 16 ต.ค. 2566 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท รวมมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท
กองทุนเปิดอีสท์สปริง ไทย อิควิตี้ทริกเกอร์ 6M1(ES-TEQ6M1) มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนที่เป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่มีพื้นฐานกิจการที่ดีและมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ด้วยกระบวนลงทุนที่เป็นระบบคัดสรรกิจการไทยที่ดีมีคุณภาพสัดส่วนของหุ้นเติบโต ราคาเหมาะสมและได้ประโยชน์ในเชิงโมเมนตัม ในขณะเดียวกันก็มีการใช้ Technical Scorecard ปรับพอร์ตเพื่อบรรลุเป้าหมายทริกเกอร์ โดยทีมผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์มีประสบการณ์ในการบริหารการลงทุนในหุ้นไทยเฉลี่ยมากว่า 12 ปี
สำหรับกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทยน่าสนใจในเวลานี้ มีปัจจัยหนุนจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การท่องเที่ยวและกลุ่มการบริโภคภายในประเทศยังคงเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการเปิดเมืองและนักท่องเที่ยวจากจีน โดยประมาณการนักท่องเที่ยวโดยรวมของไทยปรับเพิ่มเป็น 29 ล้านรายและ 35.5 ล้านราย ในปี 2023 และ 2024 ตามลำดับ
ในขณะที่การบริโภคภายในประเทศยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวจากกำลังซื้อภายในประเทศ และมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ fund flow จากต่างชาติไหลออกจนใกล้จุดต่ำสุดแล้ว หากไม่นับช่วงวิกฤติใหญ่ช่วงวิกฤติตลาด subprime ในปี 2008 และช่วงวิกฤติโควิดในปี 2020
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง ไทย อิควิตี้ทริกเกอร์ 6M1(ES-TEQ6M1) มีเป้าหมายทริกเกอร์ภายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันจดทะเบียนกองทุน ซึ่งจะเลิกโครงการเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วย ณ วันทำการใด โดยจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการถัดจากวันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของกองทุนเปิดอีสท์สปริง ไทย อิควิตี้ทริกเกอร์6M1 ทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ (หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นใดที่บริษัทจัดการเปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน) ซึ่งเป็นกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบลจ.อีสท์สปริง
โดยหากกรณีกองทุนไม่เกิดการทริกเกอร์ หลังจากกรอบเวลาที่กำหนดจะดำเนินการแปลงสภาพกองทุนเป็นกองทุนเปิดปกติ บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนและ/หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนออก ในวันทำการแรกถัดจากกรอบเวลาที่กำหนด เป็นต้นไป (หรือตามที่บริษัทจัดการกำหนด)
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนเป้าหมาย ไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงเวลา 6 เดือน ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงทางด้านตลาด ความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงทางด้านเครดิตและคู่สัญญา และความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่อง เป็นต้น