ดาวโจนส์บวกเล็กน้อย ปรับตัวขึ้น 7 วันติด อานิสงส์บอนด์ยีลด์ร่วง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(7พ.ย.)ดีดตัวขึ้นในกรอบแคบ ถือเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4.6% ในวันนี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 56.94 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 34,152.80 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 12.40 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 4,378.38 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 121.08 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 13,639.86 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 56.94 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 34,152.80 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 12.40 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 4,378.38 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 121.08 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 13,639.86 จุด
ทั้งนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนส่งแรงเทขายทำกำไร หลังตลาดดีดตัวขึ้น 6 วันติดต่อกัน
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในสัปดาห์นี้ ขณะที่นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแผนกสถิติและวิจัยของเฟดในวันที่ 8 พ.ย.เวลา 09.15 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลา 21.15 น.ตามเวลาไทย โดยการประชุมดังกล่าวจะมุ่งเน้นความเป็นมาในอดีต และปัจจุบัน รวมทั้งอนาคตของแผนกดังกล่าว
อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดจะให้ความสำคัญต่อถ้อยแถลงของนายพาวเวลในงานเสวนา 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 9 พ.ย.เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือวันที่ 10 พ.ย.เวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ "Monetary policy challenges in a global economy" หรือ "ความท้าทายของนโยบายการเงินในเศรษฐกิจโลก" ซึ่งนายพาวเวลมีกำหนดตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดจากผู้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยกระทรวงการคลังสหรัฐจะทำการประมูลพันธบัตรวงเงิน 1.12 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ซึ่งพันธบัตรจะแบ่งออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ พันธบัตรอายุ 3 ปี วงเงิน 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์, พันธบัตรอายุ 10 ปี วงเงิน 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ และพันธบัตรอายุ 30 ปี วงเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ กระทรวงฯ เปิดเผยว่าจะมีการเพิ่มขนาดวงเงินการประมูลพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 5 ปี โดยจะเพิ่มขึ้น 3 พันล้านดอลลาร์/เดือน ส่วนพันธบัตรอายุ 3 ปี จะมีการเพิ่มวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์/เดือน และพันธบัตรอายุ 7 ปี จะมีการเพิ่มวงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์/เดือน โดย ณ สิ้นเดือนม.ค.2567 วงเงินการประมูลพันธบัตรอายุ 2 ปี, 5 ปี, 3 ปี และ 7 ปี จะเพิ่มขึ้น 9 พันล้านดอลลาร์, 6 พันล้านดอลลาร์, 9 พันล้านดอลลาร์ และ 3 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ
กระทรวงฯ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทางกระทรวงฯ มีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน 7.76 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสปัจจุบัน และจำนวน 8.16 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ของปี 2567
ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสำคัญต่อการประมูลพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2550