ดาวโจนส์พุ่งเกือบ 400 จุด อานิสงส์บอนด์ยีลด์ร่วง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(10พ.ย.)ปรับตัวขึ้นเกือบ 400 จุด โดยได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 4.6% ในวันนี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 391.16 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 34,283.10 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.56% ปิดที่ 4,415.24 จุด
- ดัชนีแนสแด็กบวก 2.05% ปิดที่ 13,798.11
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 391.16 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 34,283.10 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.56% ปิดที่ 4,415.24 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก 2.05% ปิดที่ 13,798.11
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง (บอนด์ยีลด์) หลังดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4.6% ในช่วงแรก ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
"คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีความมุ่งมั่นในการบรรลุการใช้นโยบายการเงินที่มีความเข้มงวดเพียงพอที่จะทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 2% แต่เรายังไม่มั่นใจว่าเราได้บรรลุจุดยืนดังกล่าว หากเป็นการเหมาะสมที่จะคุมเข้มนโยบายมากขึ้น เราก็จะไม่ลังเลที่จะดำเนินการ แต่เราจะทำด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการคุมเข้มนโยบายการเงินมากไป และความเสี่ยงจากการเข้าใจผิดต่อข้อมูลที่ดีเพียงไม่กี่เดือน" นายพาวเวลกล่าววานนี้ ในงานเสวนา 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. แม้ว่านายพาวเวลส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนม.ค.,มี.ค.และพ.ค.ของปี 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.