JAS กระพือข่าว | ออฟเรคคอร์ด

 ๐๐๐ JAS กระพือข่าว 

     ตามคาดราคาหุ้น JAS ลงมารับข่าวส่งท้ายของขวัญให้ผู้ถือหุ้น(ใหญ่) ด้วยการ ปันผลระหว่างกาล 0.60 บาท รวม 5,155 ล้านบาท

    

    ถือว่าเป็นเงินปันผลก้อนใหญ่สำหรับ JAS ที่เผชิญผลการดำเนินการลดลงจากธุรกิจหลัก 3BB จนต้องขายให้กับ ADVANC ไปเป็นที่เรียบร้อยราคาหุ้นลงมารับข่าวลงดิ่งฟลอร์ที่ 1.57 บาท 

    ปรากฏแรงซื้อหุ้นยังมีเข้ามาเติมไม่ได้หยุด..ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวเก็บหุ้นแล้วไป “รอเก็งกำไร 2 เด้ง” ทั้ง จ่ายปันผลพิเศษ และราคาหุ้น ส่งท้ายอีกรอบหรือไม่ 

    ด้วยอัตราจ่ายปันผลที่กระพือข่าวว่าจะเกิดขึ้นเดือนก.พ.2567 จะสูงแบบตกตะลึงที่ 1.34 บาทต่อหุ้น  หรือคิดเป็นตัวเลขกลมๆประมาณ 11,000 ล้านบาท   !! 

    ปันผลครั้งใหญ่ให้ผู้ถือหุ้นชื่นใจก่อนเปลี่ยนธุรกิจ และไปลุ้นกันอีกรอบ 

๐๐๐

     ตลาดหุ้นสหรัฐ เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนพ.ย. +3.1%( YoY) ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) +4.0% (YoY) ซึ่งทั้งสองตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์  ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐ  “Janet Yellen” แถลงทันทีว่ามั่นใจเงินเฟ้อสหรัฐจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 2.0% ของ FED ในปี 2567

      ปัจจัยสำคัญตลาดหุ้นโลกผลการประชุม  FOMC (13 ธ.ค.66) คงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 5.50%  ที่น่าสนใจคือการปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ และแผนภาพ dot-plot  สำหรับแนวโน้มดอกเบี้ยปี 2567

๐๐๐

     สวนทางกับตลาดหุ้นไทยที่ลงอยู่ และลงต่อ ดัชนีแดนลบตลอดทั้งวัน และยังลงมานำนิวโลว์รอบใหม่จากปลายเดือนต.ค.ที่ 1,366 จุด  มาปิดตลาดที่  1,357.97 จุด  ลดลง 15.95 จุด เปลี่ยนแปลง 1.16% มูลค่าการซื้อขาย 37,954.39  ล้านบาท สอดคล้องกับมุมมองสื่อต่างประเทศระบุหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ตลาดหมี (Bear Market) อย่างเป็นทางการ 

    หลังปรับตัวร่วง -20% จากจุดสูงสุดในเดือนก.พ. ปี 2565 นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่อง และกองทุนต่างประเทศถอนหุ้นออกกว่า 5,600 ล้านดอลลาร์ ส่งผลดัชนีตลาดหุ้นไทยติดอันดับดัชนีที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดในโลกในปีนี้

๐๐๐

     ปัจจัยน้ำมันมาซ้ำเติมหุ้นไทยในกลุ่มพลังงานเทขายนำหุ้นลง หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงแรง 3.73% และขยับลงต่อใกล้ระดับ 68  ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดรอบ 6 เดือน หลังจากนักลงทุนกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก บวกกับกังวลศักยภาพของกลุ่ม OPEC+ในการควบคุมตลาดน้ำมันกดดัน PTTEPลดลง 1% 

๐๐๐

    “ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” เรียกความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้น NER ปี 2566 มียอดขายตามเป้าหมายที่วางไว้ 500,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 515,600 ตัน ปี 2567 เตรียมงบ 1,400 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานยางแท่ง และยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิตที่ 302,400 ตัน เพื่อรองรับลูกค้ารายใหม่ ยิ่งตลาดยานยนต์ไฟฟ้าบูมต่อเนื่องออเดอร์คำสั่งซื้อจึงไม่แผ่วทั้ง กลุ่มยานยนต์ (รวมยานยนต์ไฟฟ้าตามแผนสนับสนุนของภาครัฐ) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มขยายตัวหนุนความต้องการใช้ยางในภาคก่อสร้าง

๐๐๐

    AOT ได้แต้มต่อ หลัง ครม.ไฟเขียว “ฟรีวีซ่า” นักท่องเที่ยญี่ปุ่น 3 ปี เริ่ม 1 ม.ค.2567 - 31 ธ.ค.2569 เป็นกรณีพิเศษ ส่งเสริมการค้า และการลงทุนหนุนปี 2567 ยอดผู้โดยสารเพิ่มเป็น 120 - 130 ล้านคน จากมาตรการฟรีวีซ่าไม่แปลกใจที่ โบรกเกอร์ให้ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง ราคาเป้าหมาย 85.25 บาท แต่ราคาหุ้นวันนี้ที่ย่อตัวลงไปแรงหลุด 60 บาท

๐๐๐

    กระแสแรงสุดว่าหุ้นน้องใหม่ “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ MGI จะพุ่งแรงหรือจะลงแรง 14 ธ.ค. 66 นี้ จากธุรกิจจัดประกวดนางงาม “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” และ “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล”  ที่ราคาไอพีโอ 4.95 บาท จำนวน 60 ล้านหุ้น เพราะนักลงทุนยังจำฝังใจกับธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน และพากันช้ำใจเพราะหุ้นกู้ อย่าง JKN  

    ส่องดูโครงสร้างรายได้ อิงปี 2565 การบริหารจัดการศิลปิน 23%  ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19% ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 13% และจัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ  4% ซึ่งมีแม็กเน็ต หลัก “อิงฟ้า  วราหะ” นอกนั้นยังไม่โดดเด่น !! 

๐๐๐

    คดีสร้างราคาหุ้น  MORE ยังไม่รู้ผลแต่บริษัทขอไปต่อด้วยการ ประกาศเพิ่มทุนครั้งใหญ่  21,580 ล้านหุ้น แบ่ง RO 14353 ล้านหุ้น (1:2) ราคา 0.05 บาท และ MORE-W3 อีก 7,176 ล้านหุ้น (2:1) อายุ 2 ปี ใช้สิทธิ 1 บาท รวม 717 ล้านบาท ขึ้นเครื่องหมาย 25 ธ.ค.2566  และกำหนดจ่ายเงิน 21 - 27 ก.พ.2567 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์