จับตา MGI ไร้เงา ‘หมอพงศ์ศักดิ์-สุระ’ แต่พบ ‘รายใหญ่กลุ่มใหม่’ ผงาดแทน !

 ถือเป็นหุ้นน้องใหม่ที่ราคา “พุ่งทะยาน” แบบโนสนโนแคร์มูลค่าซื้อขาย (วอลุ่ม) ของ “ตลาดหุ้นไทย” ที่เหงาหงอย... เพราะนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดซื้อขาย ! ใน ตลาด MAI เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 ของ บมจ. มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) หรือเจ้าของฉายา “หุ้นนางงาม” ของบอสใหญ่ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ผู้ก่อตั้งและหุ้นใหญ่ หลัง หุ้น MGI พุ่งทะยานเย้ยฟ้าท้าดินมาก

แต่ร้อนแรงสุดคงต้องยกให้เมื่อ 20 ธ.ค. 2566 หลังราคาหุ้น MGI เคลื่อนไหว “รุนแรงมาก” สะท้อนจากราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปทำ “จุดสูงสุด” 20.10 บาท หรือพุ่งทะยานกว่า 306% จากราคาไอพีโอหุ้นละ 4.95 บาท แต่ระหว่างวันก็ถูกทุบรูดลงมา “ต่ำสุด” ของวันที่ 13.60 บาทเช่นกัน แต่ไม่นานก็มีแรงซื้อไหลเข้ามาลากหุ้นขึ้นไปอีกรอบ จนราคาปิดซื้อขายของวันครึ่งเช้าที่ 17.60 บาท 

ทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไม่ทน !! หลังเห็นพฤติกรรมการ “ลากขึ้น” และ “ทุบลง” ของหุ้น MGI จนต้องออกโรงทันที ด้วยการออกประกาศติดป้าย “เตือน” นักลงทุนใช้ความระมัดระวังลงทุนในหุ้น MGI หลังพบแรงเก็งกำไรสูง ! และจากราคาหุ้นเคลื่อนไหว “หวือหวา” ตลอดนับตั้งแต่เข้าซื้อขาย ย้อนดูจากราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปต่อเนื่องจนชนเพดานสูงสุด (ซิลลิ่ง) 30% 2 วันซ้อน !! เรียกว่าสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนไม่น้อย

ขณะที่ล่าสุด ณ วันที่ 22 ธ.ค.2566 ราคาหุ้น MGI ปิดตลาดที่ระดับ 16.40 บาท

ไม่อาจรู้ได้ ? ราคาหุ้นนางงาม MGI ที่ถูกเก็งกำไรจนราคา “สุดร้อนแรง” ประจำปี 2566 จะเป็นการเข้าเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อย หรือมีนักลงทุน “ขาใหญ่” หรือมี “เจ้ามือ” เข้าไปจุดชนวนและเติมเชื้อไฟของการเก็งกำไรหุ้นตัวดังกล่าว เพื่อล่อเหล่าแมลงเม่ากระโดดเข้ากองไฟแห่งนี้ ! กันแน่  

เพราะหากดูจากรายชื่อที่ปรากฏใน 10 อันดับแรก ก็พบนักลงทุนรายใหญ่ “ชุมนุม” กันหนาแน่นหลายราย หลังได้รับการจัดสรรหุ้นต้นตั้งแต่ไอพีโอ ซึ่งเมื่อราคาหุ้นทะทานก็คงพร้อมจะเทขายหุ้นได้ในทุกระดับราคา...  

จนกระทั้งวานนี้ (22 ธ.ค.) มีกระข่าวสะพัดว่า “บอสใหญ่” แห่ง MGI “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ขายหุ้น MGI ทำให้ราคาหุ้นผันผวนหนัก

ล่าสุด “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGI ออกมาเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” พร้อมเขียนข้อความระบุว่า “ปิดบัญชีล่าสุด 15 อันดับแรกผู้ถือหุ้น MGI ล้วนเป็นนักลงทุนตัวจริงระยะยาวและมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ขอบคุณที่เชื่อมั่น MGI ครับ”

สำหรับรายชื่อ ผู้ถือหุ้น MGI ที่ ณวัฒน์ นำมาเปิดเผยบนเฟสบุ๊กพบว่า มีชื่อของ “เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (สมาคม VI) ถือหุ้นอยู่จำนวน 2.45 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 40.18 ล้านบาท ขณะที่ “พีรเจต สุวรรณนภาศรี” นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นเพิ่มเป็น 6 ล้านหุ้น จากเดิม 4.7 ล้านหุ้น

นอกจากนี้ยังพบ “เบียร์-วนนท์ วรรณป้าน” เทรดเดอร์ชื่อดังร่วมถือหุ้นด้วยจำนวน 1.9 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 31.16 ล้านบาท

ส่วน “อิงฟ้า วราหะ” ผู้ชนะการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ยังคงถือหุ้นเท่าเดิมจำนวน 2 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 32.8 ล้านบาท ขณะที่  “ชาล็อต ออสติน” รองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ถือหุ้นลดลง 1 แสนหุ้น เหลืออยู่จำนวน 1.9 ล้านหุ้น

 

แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นประเด็นถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ คือ การหายไปของ 2 คู่หูนักลงทุน “หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี” และ “สุระ คณิตทวีกุล” ซึ่งเคยถือหุ้น MGI อยู่คนละ 2 ล้านหุ้น ปัจจุบันไม่ปรากฎรายชื่อของทั้ง 2 คนเลย

ย้อนไปก่อนหน้านี้ พบว่ามี กรรมการบริษัท 2 คน ได้ทยอยขายหุ้น MGI ออกมาต่อเนื่อง คือ “สุรชาติ เหล่าปรีดา” ประธานกรรมการตรวจสอบ และ “จิรศิลป์ จยาวรรณ” กรรมการตรวจสอบ

โดย “สุรชาติ” ได้ขายหุ้นออกมาทั้งหมด 5 รายการ รวม 3 แสนหุ้น คิดเป็นเม็ดเงินรวมประมาณ 4.5 ล้านบาท แบ่งเป็น การขายเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2566 ซึ่งเป็นวันแรกที่หุ้นเข้าเทรด 2 รายการ ขายครั้งละ 50,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 8.60 กับ 9.15 ล้านบาท

นอกจากนี้ “สุรชาติ” ยังได้ขายหุ้น MGI ออกมาอีก 3 รายการในวันที่ 20 ธ.ค.2566 แบ่งเป็น การขายที่ราคา 20 บาท จำนวน 50,000 หุ้น ขายที่ราคา 18.40 บาท จำนวน 50,000 หุ้น และขายที่ราคาหุ้นละ 16.90 บาท อีกจำนวน 1 แสนหุ้น

ส่วนทางด้าน “จิรศิลป์” ขายหุ้น MGI ออกมาทั้งหมด 2 รายการ คิดเป็นมูลค่าราว 1.92 ล้านบาท โดยเป็นการขายในวันที่ 18 ธ.ค.2566 ที่ราคา 9.25 บาท จำนวน 1 แสนหุ้น และขายที่ราคา 10 บาท อีกจำนวน 1 แสนหุ้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองหุ้น MGI เป็นสองทาง ซึ่งนักลงทุนที่มองในมุมธุรกิจ จะเห็นว่าพื้นฐานธุรกิจอาจไม่มีความมั่นคงอย่างยั่งยืน ดังนั้น หุ้นจึงมีความเสี่ยงสูง แต่ทางที่สอง ในมุมของแฟนคลับนางงามก็มองเป็นหุ้นที่อยู่ในกระแส ดังนั้น เคลื่อนไหวเล็กน้อยคนก็จะรู้จัก

คงต้องรอดูในระยะยาวๆ “หุ้น MGI” จะเป็นแค่กระแสเพียงชั่วครู่ หรือเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีอนาคต "หุ้นดาวรุ่ง" ของจริง ต้องติดตามกันต่อไป !!