ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด จับตา'ซานต้า แรลลี่' มาตามนัด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(26ธ.ค.)ปรับตัวขึ้นกว่า 100 จุด ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของสัปดาห์สุดท้ายในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 159.36 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 37,545.33 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 20.12 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 4,774.75 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 81.60 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 15,074.57 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวานนี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส หลังจากทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 8 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%
ตลาดจับตาปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
ข้อมูลจาก Stock Trader's Almanac ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2512 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลา 7 วันดังกล่าว
การซื้อขายในตลาดวันนี้ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านสหรัฐในเดือนต.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง
ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้ จากระดับ 4.0% ในเดือน.ก.ย.
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนต.ค. จากระดับ 3.9% ในเดือนก.ย.