ดาวโจนส์ทะยาน 242 จุด ขานรับจีดีพีสหรัฐแกร่ง-เงินเฟ้อต่ำ
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(25ม.ค.)ปรับตัวขึ้น 242 จุด ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2566 ที่สูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 242.74 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 38,049.13 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 4,894.16 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 28.58 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 15,510.50 จุด
นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ โดยในรายงานจีดีพีระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำไตรมาส 4/2566 ปรับตัวขึ้น 2.7% ชะลอตัวจากระดับ 5.9% ในไตรมาส 4/2565 ส่วนดัชนี Core PCE ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% จากระดับ 5.1% ในไตรมาส 4/2565
นักลงทุนตอบรับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน
ขณะเดียวกัน ตลาดขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) และคอมแคสต์ คอร์ป ต่างพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/2566 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
บริษัทมากกว่า 16% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2566 แล้ว โดยบริษัทกว่า 70% จากจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.3% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.0%
ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนธ.ค.ในวันพรุ่งนี้