ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 99 จุด แม้บริษัทจดทะเบียนเผยผลประกอบการแกร่ง
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(24ม.ค.)ปรับตัวร่วงลง 99 จุด หลังจากพุ่งกว่า 100 จุด ในการซื้อขายช่วงแรก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ดาวโจนส์ ลดลง 99.06 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 37,806.39 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 3.95 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 4,868.55 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 55.97 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 15,481.92 จุด
ทั้งนี้ ราคาหุ้นไมโครซอฟต์ ดีดตัวขึ้น 1.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดันมูลค่าตลาดของพวกเขา ขยับขึ้นเหนือ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
ส่วนดัชนีแนสแด็กได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นเกือบ 12% ของราคาหุ้นบริษัทเน็ตฟลิกซ์ อิงค์ ผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์รายใหญ่ของสหรัฐฯ หลังเปิดเผยรายได้และจำนวนสมาชิกสูงกว่าคาด
ขณะที่ราคาหุ้นอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล, แอมะซอนดอทคอม และเมตา แฟลตฟอร์ม ส่วนหนึ่งของกลุ่มยักษ์ใหญ่ที่เรียกว่า Magnificent Seven group ซึ่งเป็นขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเอสแอนด์พี 500 มาตลอดปีที่แล้ว ต่างปิดบวกมากกว่า 1% ในวันพุธ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทเทสลา อิงค์ หลังจากปิดตลาดในวันพุธ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ในวันพฤหัสบดี(25ม.ค.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์(26ม.ค.)
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 4/2566 หลังจากขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/2566