หุ้นไทยวันนี้ 5 ก.พ.67 แกว่งตัว 1,375 - 1,400 จุด รับแรงหนุนงบ 4/66 เฉพาะตัวโต
หุ้นไทยวันนี้ 5 ก.พ.67 แกว่งตัว 1,375 - 1,400 จุด รับแรงหนุนหุ้นเฉพาะตัวโดยเฉพาะกลุ่มคาดการณ์งบ 4Q23F โต ด้านการจ้างงานภาคเกษตรแข็งแกร่ ลดโอกาส FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้
หุ้นไทยวันนี้ 5 ก.พ.67 นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัวกรอบ 1,375 - 1,400 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวโดยเฉพาะกลุ่มคาดการณ์งบ 4Q23F เติบโต อย่างไรก็ตาม การจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งนั้นลดโอกาสที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงจากความกังวลด้าน Demand จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ :
- GULF GPSC BGRIM อานิสงส์ต้นทุนพลังงานลดลงจากการปรับ Pool gas
- AOT AAV BA CENTEL ERW MINT SPA ASAP ไทย-จีนลงนามฟรีวีซ่ามีผล 1 มี.ค.67
- BDMS BCH AOT WHA CPALL CPAXT BJC CBG ITC AAI AUCT PLANB
- SABINA MC SISB MASTER SNNP SPA MINT แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม
(+/-) ตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งคลายกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่ลด โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเร็ว: สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.53 แสนตำแหน่ง สูงกว่าเดือน ธ.ค.ที่ เพิ่มขึ้น 3.33 แสนตำแหน่งและมากกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 แสน ตำแหน่ง ด้านอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.7% ขณะที่ Consensus คาดว่าจะ เพิ่มขึ้นเป็น 3.8%
(+/-) วันนี้ ก.พาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของไทยคาดเงินเฟ้อ ทั่วไปยังติดลบตามเดิม: เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) เดือน ม.ค. จะอยู่ที่ระดับ -0.82% ใกล้เคียงกับเดือน ธ.ค.ที่ -0.83% เป็นผลจากมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐยังทำให้ระดับราคาสินค้า ยังอยู่ในระดับต่ำ อาทิ ลดค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันดีเซล ส่วนอัตราเงินเฟ้อ พื้นฐาน (Core CPI) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.57% ใกล้เคียงกับเดือน ธ.ค.ที่ 0.58% เช่นกัน
(+/-) คาดแบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ตามเดิม จับตาคาดการณ์ GDP ปี 23 และ 24: แม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะติดลบแต่เป็นผลจาก ปัจจัยชั่วคราวจึงเป็นไปได้สูงที่แบงก์ชาติจะเลือกคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมเพื่อรอ ประเมินทิศทาง ศก. ในช่วงครึ่งปีแรกก่อน อย่างไรก็ตามต้องติดตามตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 23 และ 24 ว่าจะมีการปรับลดในทิศทางเดียวกับ ก .การคลังหรือไม่ (มีโอกาสปรับลด หากปรับลดเยอะเป็น Sentiment ลบกดดันตลาด)