ดาวโจนส์ ปรับตัวลง 68 จุด หลังสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(8มี.ค.)ปรับตัวร่วงลง 68 จุด หลังสหรัฐเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ลดลง 68.66 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 38,722.69 จุด
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 33.67 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 5,123.69 จุด
- ดัชนีแนสแด็ก ลดลง 188.26 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 16,085.11 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.พ.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 41.0% เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนขานรับรายงานการจ้างงานดังกล่าว ซึ่งระบุว่า อัตราการว่างงาน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% และจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ การที่สหรัฐปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 229,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 353,000 ตำแหน่ง ก็เป็นการบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานไม่ได้อยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 198,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
"เราคิดว่ารายงานการจ้างงานในวันนี้เป็นปัจจัยบวกที่บ่งชี้ว่า เฟดสามารถทำให้ เศรษฐกิจสหรัฐ เข้าสู่ภาวะซอฟต์แลนดิ้ง หรือสามารถควบคุมเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง โดยไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่เงินเฟ้อปรับตัวลง โดยแม้ตัวเลขการจ้างงานมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ถูกหักล้างด้วยตัวเลขว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนม.ค." นายแลร์รี เทนทาเรลลี หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านเทคนิคของ Blue Chip Daily Trend Report ระบุ