ดาวโจนส์ร่วง 190 จุด นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนประชุมเฟดสัปดาห์หน้า
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(15มี.ค.)ปรับตัวลง 190 จุด ขณะที่นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 190.89 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 38,714.77 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 0.65% ปิดที่ 5,117.09 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 0.96% ปิดที่ 15,973.17 จุด
การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในวันนี้ เนื่องจากตรงกับวัน triple witching ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบออปชั่นและสัญญาล่วงหน้ารายไตรมาสของหุ้นและดัชนีต่างๆพร้อมกัน
ขณะเดียวกัน ตลาดถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.3% ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้
นอกจากนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 76.5 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 77.4 จากระดับ 76.9 ในเดือนก.พ.
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิ.ย.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า รวมทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
ในการแถลงต่อสภาคองเกรสช่วงต้นเดือนนี้ นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าเฟดยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการดำเนินการดังกล่าว