ดาวโจนส์ทะยาน 320 จุด ทะลุแนว 39,000 ลุ้นผลประชุมเฟด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(19มี.ค.)ปรับตัวขึ้น 320 จุด ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ก่อนที่จะสิ้นสุดการประชุม และแถลงผลการประชุมในวันถัดมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 320.33 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 39,110.76 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 บวก 0.56% ปิดที่ 5,178.51 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 0.39% ปิดที่ 16,166.79 จุด
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีต่างทรุดตัวลงสวนทางตลาด หลังบิตคอยน์ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 63,000 ดอลลาร์ในวันนี้
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ในสัปดาห์นี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิ.ย.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ รวมทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
ในการแถลงต่อสภาคองเกรสช่วงต้นเดือนนี้ นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าเฟดยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุม FOMC เดือนธ.ค.2566 เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในการประชุมเดือนก.ย.2566
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งในปี 2568 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.00%
ส่วนในปี 2569 เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลงสู่ช่วง 2.00-2.25% ซึ่งใกล้กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ระดับ 2.50%