ดาวโจนส์พุ่งกว่า 400 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย3ครั้งในปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(20มี.ค.)ทะยาน 401 จุด หลังเฟดคลายความกังวลของนักลงทุนด้วยการคงดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และเพิ่มความคาดหมายว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยมากสุด 3 ครั้งในปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 401.37 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 39,512.13 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 46.11 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 5,224.62 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 202.62 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 16,369.41 จุด
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.2566
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2568 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ลดลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.2566
ส่วนในปี 2569 เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.2566