มูลค่าหุ้นเทคฯ สหรัฐถึงจุดพีค? รายงานชี้ คนภายในบริษัทขายหุ้นสูงสุดรอบ 3 ปี
ท่ามกลาง “ตลาดหุ้นสหรัฐ” พากันสีเขียว เหล่าผู้บริหารระดับสูงภายในบริษัทแห่กันขายหุ้นตัวเองมากที่สุดในรอบ 3 ปี สิ่งนี้เป็นสัญญาณว่า ราคาหุ้นสหรัฐแพงเกินไปแล้วหรือไม่ จนบางครั้งเงินจากการขายหุ้นอาจมากกว่ารายได้ของธุรกิจ
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอย่างดัชนี S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ราว 5,260 จุด แต่ผู้บริหารระดับสูงของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีกลับ “ขายหุ้นที่ตัวเองถือครอง” ออกมามากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2564 ตามข้อมูลจาก Verity LLC บริษัทบริหารการลงทุนที่ติดตามการซื้อขายของผู้บริหารภายใน
สำนักข่าว Financial Times รายงานว่า ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Palantir, เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) เจ้าของอีคอมเมิร์ซ Amazon และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เจ้าของ Facebook พวกเขาขายหุ้นบริษัทตัวเองออกมาหลายร้อยล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ปี 2567 สิ่งนี้สะท้อนว่า มูลค่าหุ้นเหล่าบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแตะจุดสูงสุดแล้วหรือไม่
อันที่จริง การขายหุ้นในช่วงต้นปีถือว่าปกติ เพราะมีแรงรอขายของผู้ถือหุ้นที่เลือกไม่ขายเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว อาจมาจากสภาพตลาดช่วงนั้นที่ไม่ค่อยดี และมูลค่าหุ้นถูกกดราคาไว้
แต่ในปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐดูเหมือนรอดพ้นจากภาวะถดถอย และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยภายในปี 2567 จึงทำให้ดัชนีหุ้นสหรัฐพากันทำจุดสูงสุดใหม่ จนผู้บริหารภายในบริษัทอาจตัดสินใจเลือกขายหุ้นในช่วงนี้
ชาลส์ เอลสัน (Charles Elson) ประธานฝ่ายกำกับกิจการของมหาวิทยาลัย Delaware มองว่า “ผู้บริหารที่ขายหุ้นเหล่านี้อาจคิดว่าราคาอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว จึงเลือกขายหุ้นออกมา และถือเป็นสัญญาณสำคัญต่อนักลงทุนคนอื่นๆ”
สำหรับผู้บริหารสำคัญที่ขายหุ้นบริษัทตัวเองคนแรกคือ ธีล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Palantir เทขายหุ้นรวมมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6,300 ล้านบาทในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นมูลค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.2564
คนต่อมา เบซอส ผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon เทขาย 50 ล้านหุ้น ด้วยมูลค่าราว 8,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3 แสนล้านบาทในเดือนก.พ.2567 และแอนดี แจ๊สซี่ (Andy Jassy) ซีอีโอของ Amazon ขายหุ้นราว 21.1 ล้านดอลลาร์ หรือราว 767 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงมูลค่า 23.6 ล้านดอลลาร์ของปี 2566 และ 2565 รวมกัน
ขณะที่ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ Meta ได้ขายหุ้นของบริษัทออกมาหลายล้านดอลลาร์ และขายเพิ่มในปีนี้หลังจากที่ราคาแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ โดยช่วงต้นเดือนก.พ. เขาขายหุ้นออกไป 291,000 หุ้นด้วยมูลค่า 135 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4,900 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เขายังคงถือหุ้นบริษัทที่สัดส่วน 13.5% จนทำให้เขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน
นอกจากผู้บริหาร 3 คนนี้แล้ว แฟรงค์ สลูทแมน (Frank Slootman) ซีอีโอของ Snowflake บริษัทด้านคลาวด์ข้อมูล ก็ขายหุ้นมูลค่า 69.2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,500 ล้านบาทออกไปเมื่อช่วงต้นก.พ. ก่อนที่เขาจะประกาศอำลาตำแหน่งซีอีโอ และราคาหุ้น Snowflake ก็ร่วงลง 29% หลังจากวันที่เขาประกาศ
เอลสัน กล่าวว่า “การที่เหล่าผู้บริหารตัดสินใจขายหุ้นออกไปจำนวนมาก ไม่เคยเป็นสัญญาณที่ดี พวกเขาคงพบว่ามูลค่าหุ้นที่ขายออกไป อาจมากกว่ารายได้จากการทำธุรกิจ”
อ้างอิง: ft
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์