ไทยสุดปัง! Medical tourists โตโดดเด่น BDMS เล็งเปิด รพ.ใหม่ คาดกำไรพุ่ง 1.63 หมื่นล้าน
Medical tourists โตโดดเด่น BDMS เล็งเปิดโรงพยาบาลใหม่ - ขยายเตียงผู้ป่วยเพิ่ม 9.3 พันเตียง ในปี 69 หลังแนวโน้มผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยตะวันออกกลางเติบโต คาดกำไรทั้งปีพุ่ง 1.63 หมื่นล้าน
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 1/67 +15.3% YoY และ +1.2% QoQ ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยต่างชาติ และผู้ป่วยไทยเข้ารับการรักษาโรคระบาดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้คาดรายได้กิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น + 1.2% QoQ และ +11% YoY โดยคาดรายได้จากผู้ป่วยไทยเพิ่มขึ้นราว 10.4% YoY หลัก ๆ เกิดจาก 2 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้ป่วยไทยมาเข้ารับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อไวรัส RSV ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการอักเสบที่เยื่อบุส่วนล่างของทางเดินหายใจคือ เกิดภาวะปอดอักเสบ ซึ่งเกิน 60% เป็นผู้ป่วยเด็ก
โดยคาดรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเติบโตถึง 13% YoY โดยรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตโดดเด่น ได้แก่ จีน +30% YoY ยุโรป +20% YoY ขณะรายได้ผู้ป่วย CLMV และผู้ป่วยตะวันออกกลางค่อยช้างทรงตัว YoY โดยในกลุ่ม CLMV รายได้ผู้ป่วยพม่าลดลงระดับ single digit YoY จากผลกระทบทางการเมืองในประเทศพม่า แต่สามารถชดเชยได้จากรายได้ผู้ป่วยกัมพูชาที่เพิ่มขึ้นระดับ single cigit YoY เช่นเดียวกัน
ขณะที่รายได้ผู้ป่วยตะวันออกกลางที่ทรงตัว YoY เกิดจากผลกระทบของช่วงรอมฎอนในปีนี้อยู่ในช่วงเดือนมี.ค.จำนวน 22 วัน ขณะปีก่อนอยู่ในช่วงเดือนมี.ค. เพียง 9 วัน
ทั้งนี้รายได้ผู้ป่วยในประเทศแถบตะวันออกกลางที่ยังเติบโตมากกว่า 10% YoY อันดับ 1 คือ ผู้ป่วยจาก U.A.E. 2) กาตาร์ และ 3) ซาอุดิอาระเบีย
ส่วนรายได้ผู้ป่วยตะวันกลางที่ลดลงมากสุด คือ คูเวต แต่เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยคูเวตที่คิดเป็น 0.7% จึงยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะ ทั้งนี้ประสิทธิภาพการทำกำไร ไตรมาส 1/67 ยังใกล้เคียงไตรมาส 4/66 แต่ดีขึ้นจากไตรมาส 1/66 จากการเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามารักษาโรคยากมากขึ้น ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิงวด 1/67 อยู่ที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.3% YoY และ 1.2% QoQ
ส่วนกำไรไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มอ่อนตัว QoQ จากผลกระทบของช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ แต่เชื่อว่ายังเติบโตมากกว่า 10% YoY โดยคาดรายได้ผู้ป่วยตะวันกลางจะกลับมาเติบโต YoY ได้ดีในงวดไตรมาส 2/67 เนื่องจากช่วงรอมฏอนปีก่อนอยู่ใน เม.ย. ถึง 22 วัน ขณะที่เม.ย.ปีนี้ เหลือเพียง 9 วัน เท่านั้น คือถึงวันที่ 9 เม.ย. 67 บวกกับการทำการตลาดในประเทศใหม่อาทิ ชาอุติอาระเบีย ซึ่งมีสำนักงานตัวแทนในประเทศดังกล่าวแล้ว ทำให้คาดชาวตะวันออกกลางจะเดินทางมารักษามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 3-4/67 เข้าสู่ High Season ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้คนไทยเข้ามารับการรักษาโรคระบาดจำนวนมาก บวกกับไตรมาส 3/67 เป็นช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อนของประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งคนไข้นิยมมารับการรักษา พร้อมกับพาครอบครัวมาท่องเที่ยว และไตรมาส 4/67 เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวไทย ทำให้มี Medical tourists จำนวนมาก ส่งผลให้คาดกำไรปีนี้จะอยู่ 1.63 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน และคาดจะเติบโตอีก 12% ในปีหน้า
โดย BDMS รายได้ปี 2567-2569 เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% EBITDA Margin จะขึ้นไปอยู่ที่ 25% ในปี 2569 โดยผู้ป่วยไทยยังมีแนวโน้มเติบโตดามจำนวนคนไทยผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นการเพิ่มขีดความสามารถรวมถึงเครื่องมือที่ทันสมัยในการรักษากลุ่มโรคยากที่ 14 โรงพยาบาล ที่เป็น Center of Excellence (COE) การเพิ่มขึ้นผู้ประกันตนโครงการประกันสังคมจากปัจจุบันที่มี 8 แสนกว่าราย เป็น 1 ล้านรายภายในปี 2569 รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยต่างชาติ โดยยังเน้น ผู้ป่วยชาวตะวันออกกลาง ผู้ป่วย CLMV ผู้ป่วยจากจีน และจากประเทศในแถบยุโรป เป็นหลัก
โดยใช้จุดแข็งของ 14 โรงพยาบาล COE ที่กระจายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวของไทยทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนขยายจำนวนเตียงผู้ป่วยในเพิ่มเป็นมากกว่า 9.3 พันเตียงในปี 2569 จากปัจจุบันที่ราว 8.6 พันเตียง ทั้งจากขยายจำนวนเตียงโรงพยาบาลเดิม และการเปิดเพิ่มโรงพยาบาลใหม่ ด้วยผลดังกล่าวจึงคาดว่ากำไรในปี 2569 จะยังมีแนวโน้มไม่ต่ำกว่า 10% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ดี แนะนำว่า หุ้น BDMS มูลค่าพื้นฐานปีนี้อิงวิธี DCF อยู่ที่ 36 บาท มี upside 26.3% บวกกับแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในระยะ 3 ปีนี้ เป็นโอกาสเข้าซื้อลงทุน