"หุ้นไทย" ปิดช่วงเช้าร่วง 30 จุด แนะถือเงินสดรับความเสี่ยง

โดยระหว่างวันดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,380.12 จุด  และทำจุดต่ำสุด 1,363.44 จุด                 

5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ

 

1. CPALL             ปิดที่      54.50บาท        ลดลง 4.39 %
2. SCB                 ปิดที่     105.50บาท       ลดลง 8.66%
3. PTTEP             ปิดที่     161.00บาท       เพิ่มขึ้น 1.90%
4. KTB                 ปิดที่     16.40บาท          ลดลง 4.09%
5. DELTA             ปิดที่      72.00บาท          ลดลง 5.57%  

 

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า "ตลาดหุ้นไทย"ช่วงเช้าปรับตัวตามหลังตลาดหุ้นต่างประเทศที่ในช่วงวันหยุดสงกรานต์บ้านเราลงไปมาก ปัจจัยกดดันหลักมาจากกังวลความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์สงครามในตะวันออกกกลางที่เกิดการตอบโต้ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ปัจจัยจากฝั่งสหรัฐ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูงต่อ หลังจากการบริการจัดการเงินเฟ้อให้ลดลงทำได้ช้า ตลาดจึงปรับเปลี่ยนการคาดการณ์โอกาสเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้เหลือเพียง 1 ครั้ง จากเดิม 2 ครั้ง กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก

ประกอบกับ วันนี้หุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่ราคาร่วงลงจากการขึ้น XD กดดันดัชนีด้วย ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาส่วนใหญ่ปรับลงเช่นกัน

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังคงแกว่งแดนลบต่อเนื่อง ไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยหนุน มองว่านักลงทุนเลือกขายสินทรัพย์เสี่ยงไปถือเงินสดมากขึ้น เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างมาก โดยให้แนวรับ 1,355-1,360 จุด และแนวต้าน 1,370-1,375 จุด