หุ้นแบงก์ดูหงอยไร้ประเด็นบวก นักวิเคราะห์ชี้เน้นเล่นรายตัวแนะ KTB - BBL
นักวิเคราะห์มองหุ้นกลุ่มแบงก์หงอยหลังปัจจัยเฉพาะอุตสาหกรรมและภาพรวมไร้ประเด็นบวก แถมผลประกอบการมิได้เซอร์ไพรส์เชิงบวก ขณะที่มองเรื่องนายกฯ กล่อมแบงก์ลดดอกเบี้ยยังไม่มีนัย ฟันธง SET ปรับฐานวนไปแถว 1,350 จุด ทว่าหากมีการลด M-Rate ต่างๆ SCB, TTB, KTB และ KBANK กระทบชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 เม.ย.2567) หุ้นไทย ยังผันผวนเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์กดดันอย่างชัดเจน ได้แก่
- BBL ราคาล่าสุด 136.50 ปรับลง -1.09 %
- BAY ราคาล่าสุด 26.25 ปรับลง -0.94 %
- SCB ราคาล่าสุด 103.50 ปรับลง -1.43 %
- TTB ราคาล่าสุด 1.78 ปรับลง -1.11 %
- KBANK ราคาล่าสุด 125.50 ปรับขึ้น +0.40 %
- TISCO ราคาล่าสุด 95.00 ปรับลง -4.52 %
- KTB ราคาล่าสุด 16.20 ไม่แปลี่ยนแปลง 0.00 %
(ข้อมูล ณ เวลา 14.33 น.)
นายกวี ชูกิจเกษม Head Research and Content บริษัทหลักทรัพย์พาย เปิดเผยว่า การหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ส่วนหนึ่งปรับลงวันนี้เป็นไปตามแรงเก็งกำไรตามปกติ ซึ่งหลายๆ ตัวเช่น SCB ก็เพิ่งขึ้นเครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) จึงทำให้แนวโน้มภาพลบสะท้อนไปในราคาหุ้นระยะนี้
ขณะที่ประเด็น นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ได้นัดหารือกับ 4 ธนาคารได้แก่ ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย, กรุงไทย และกรุงเทพ เพื่อขอความร่วมมือปรับลดดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบางนั้น เชื่อว่าไม่ได้มีน้ำหนักมากพอกดดันราคาหุ้นบนกระดาน
อย่างไรก็ตาม ประเมินราคาหุ้นกลุ่มนี้จะอิงกับปัจจัยพื้นฐานของแต่ละรายเป็นสำคัญมากกว่า โดยหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่น่าสนใจได้แก่ KTB และ BBL เป็นต้น
"ลงไปแค่นี้ผมคิดว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นไปตามเซนติเมนท์ (แนวโน้มราคา) มากกว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นปัจจัยลบอื่นๆ เพิ่มเข้ามา ส่วนที่ถามเรื่องคุณเศรษฐา ผมก็ไม่เห็นจะเป็นน้ำหนักมากพอต่อราคาหุ้นที่เกี่ยวข้อง" นายกวี ชูกิจเกษม กล่าว
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมตลาดหุ้นไทยซึ่งยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใดเข้ามากระตุ้นทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในประเทศ
ส่วนการที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถวิเคราะห์ผลกระทบต่อการลงทุนได้
"ตอนนี้ยังเป็นช่วงการปรับฐานต่อไป ตั้งแต่ที่ SET Index หลุด 1,500 จุดมาทิศทางก็ไม่ค่อยดี ดังนั้นที่ดัชนีแถวนี้ (1,350 จุด) จึงยังไม่น่าไปไหน ดัชนียังคงรอมีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา" นายเบญจพล สุทธิ์วนิช กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับลดลงมาจากการ รอประเมินผลกระทบจากมาตรการที่จะออกมาเพิ่มเติมหลังจากผู้บริหารธนาคารใหญ่เข้าประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี
โดยมองเป็น 2 กรณี คือ
1.หากมาตรการใหม่เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกับมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และมาตรการ ช่วยเหลืออื่นๆ ภายใต้มาตรการ Responsible Lending ผลกระทบต่อประมาณการค่อนข้างจำกัดเพราะกระทบกับฐานลูกหนี้ไม่มาก
2.หากเป็นมาตรการที่เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย M-Rate ต่างๆ เช่น MRR หรือ MLR จะส่งผลกระทบทางลบต่อ รายได้ดอกเบี้ย โดยเฉพาะสินเชื่อในกลุ่มที่อยู่อาศัย ซึ่งธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากที่สุดคือ SCB (31%), TTB (25%), KTB (19%) และ KBANK (17%)
โดยธนาคารที่คาดได้รับผลกระทบน้อยแม้กรณีที่มีการลดดอกเบี้ย M-Rate คือ TISCO และ KKP แต่หากมาตการไม่รุนแรงคาดจะเห็นแรงซื้อกลับของกลุ่มธนาคารใหญ่อื่นๆ
ขณะที่ แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์อีกรายระบุว่า ราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่ปรับลงโดยหลักมาจากการสะท้อนความผิดหวังของผลประกอบการในภาพรวมที่เพิ่งประกาศออกมาต่ำคว่าคาดการณ์เล็กน้อย อีกทั้งที่สินเชื่อผู้บริโภคก็ยังอ่อนแอ
นอกจากนี้การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่มีทีท่าลดดอกเบี้ยก็เป็นอีกปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลภาวะการลงทุนหุ้นไทย ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมหุ้นไทยและหุ้นในกลุ่มธนาคารน่าจะปรับฐานอีกสักระยะจนกว่าจะมีปัจจัยบวกเข้ามา
"ตอนนี้ปัจจัยที่ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ลงเป็นเพราะผลประกอบการ ถึงจะไม่ได้แย่แต่ก็มองว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดหวังไว้ เมื่อรวมกับเรื่องที่แบงก์ชาติไม่ยอมลดดอกเบี้ยหุ้นกลุ่มนี้ก็น่าจะปรับฐานอีกสักระยะ" นักวิเคราะห์ กล่าว