SCC งบ Q1/67 กำไร 2.4 พันล้าน ลด 85% YoY เพราะไม่มีรายการพิเศษ
บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดงบ Q1/67 กำไร 2.4 พันล้านบาท ลดลง 85% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะไม่มีรายการพิเศษ ขณะที่ปีนี้คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนราว 4 หมื่นล้านบาท
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (เอสซีจี) หรือหลักทรัพย์ SCC รายงานงบการเงินไตรมาส 1/2567 ดังนี้
ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เอสซีจีมีรายได้จากการขายเท่ากับ 124,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากยอดขายที่สูงขึ้นเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ EBITDA เท่ากับ 12,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์ และการก่อสร้าง เป็นผลมาจากสินค้ากรีน และการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
กำไรสำหรับงวดเท่ากับ 2,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,559 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนจากกำไรที่เพิ่มขึ้นเกือบทุกธุรกิจ
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เอสซีจีมีรายได้จากการขายลดลง 3% ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์ และการก่อสร้าง และปริมาณขายที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ อย่างไรก็ตาม EBITDA เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชีเมนต์ และการก่อสร้าง
ในขณะที่กำไรสำหรับงวดลดลง 85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีรายการพิเศษจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics ซึ่งไม่ใช่รายการเงินสดมูลค่า 11,956 ล้านบาท ประกอบกับไตรมาสนี้ ผลประกอบการของธุรกิจเคมิคอลส์ลดลง
ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เอสซีจีมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 1,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 173 ล้านบาท หรือ 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์คิดเป็น 26% ของทั้งหมด หรือ 458 ล้านบาท ลดลง 182 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจอื่นคิดเป็น 74% ของทั้งหมด หรือ 1,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 355 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน
เอสซีจีมีเงินปันผลรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เท่ากับ 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (เอสซีจี ถือหุ้น 20 - 50%) เท่ากับ 114 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (เอสซีจีถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 93 ล้านบาท
เอสซีจียังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงโดยมีเงินสด และเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เท่ากับ 78,585 ล้านบาท เทียบกับ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 68,064 ล้านบาท
เอสซีจีมีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 106.805 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 10% โดยมีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อต้นทุนขายเท่ากับ 70 วัน ลดลงเมื่อเทียบกับ 75 วันในไตรมาสก่อน (ไตรมาสที่ 4 ปี 2566)
นอกจากนี้ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เอสซีจี มีหนี้สินสุทธิ 283,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,160 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.6 เท่า อยู่ในระดับเดียวกันกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน
ต้นทุนทางการเงินในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เท่ากับ 2,611 ล้านบาท เทียบกับ 2,241 ล้านบาทใน ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 และ 3,041 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566
อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 อยู่ที่ 3.3% ลดลงจาก 3.6% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 และ 3.4% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีมูลค่า 9,375 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนเป็นของธุรกิจเคมิคอลส์ 60% ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง 19% ธุรกิจแพคเกจจิ้ง 16% และส่วนงานอื่น 5% โดยรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนด้านกรีน
ทั้งนี้คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนสำหรับปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 EBITDA เท่ากับ 12,623 ล้านบาท ในขณะที่มีกระแสเงินสด จ่ายทั้งสิ้น 13,643 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุน 9,375 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ย 3,244 ล้านบาท และจ่ายภาษีเงินได้และอื่นๆ 1,024 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์