ดาวโจนส์บวก 153 จุด ขานรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงเกินคาด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(26เม.ย.)ปรับตัวขึ้น 153 จุด ขานรับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงเกินคาด ซึ่งช่วยบดบังความกังวลจากการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สูงกว่าคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 153.86 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 38,239.66 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.02% ปิดที่ 5,099.96 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 2.03% ปิดที่ 15,927.90 จุด
การพุ่งขึ้นของดัชนีแนสแด็ก และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นอัลฟาเบทและไมโครซอฟท์ หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.6% จากระดับ 0.8% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.5% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.3% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.3% ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)