"ปฏิภาณ สุคนธมาน" ตัวเต็งประธานกรรมการ BCP รอรับไม้ต่อแบบไร้รอยต่อ

ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอำนาจบริหารสูงสุดที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กำลังรอฉากสำคัญภายหลังอดีตประธานกรรมการ "พิชัย ชุณหวชิร" ผู้นั่งเก้าอี้บัญชาการเฉียด 12 ปี เพิ่งแจ้งลาออกเมื่อปลายๆ เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อดีดตัวเข้ารับงานสำคัญด้านเศรษฐกิจบนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชุดรัฐบาลปัจจุบัน

กว่าทศวรรษ "บางจาก" ก้าวขึ้นมาตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโรงกลั่น ตามข้อมูลปลายปี 2566 ทั้งเครือมีกำลังกลั่นรวมสูงสุดในประเทศเข้าใกล้ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นพระโขนง และโรงกลั่นศรีราชา (เดิมคือ โรงกลั่นของ "เอสโซ่ (ประเทศไทย)") มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันราว 2,200 แห่ง ส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 30% มีการกระจายฐานรายได้เข้าลงทุนธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างเป็นกอบเป็นกำ สร้างกำไรสุทธิให้กิจการเพิ่มจากเคยอยู่หลักพันล้านเป็นสู่หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่มาร์เก็ตแคปหุ้น BCP ปัจจุบันขึ้นสู่ระดับราว 57,000 ล้านบาท
 

จึงเป็นที่คาดหวังอย่างยิ่งว่าผู้ที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้ต่อจากนี้ จำเป็นต้องมีทั้งฝีมือและบารมีไม่ด้อยไปกว่ากัน หรืออย่างน้อยเป็นบุคคลที่ "พิชัย ชุณหวชิร" ให้ความไว้วางใจ

ปัจจุบัน (2 พ.ค. 2567) "ประสงค์ พูนธเนศ" อยู่ระหว่าง รักษาการตำแหน่งประธานกรรมการองค์กรมหาชนแห่งนี้ ทว่า 1 รายชื่อที่ถูกจับตาเป็นพิเศษที่จะเป็นตัวจริงก็คือ "ปฏิภาณ สุคนธมาน" ซึ่งเป็นกรรมการอิสระของ BCP อยู่แล้วเริ่มเป็นกรรมการเมื่อ 17 เม.ย. 2567

ประวัติโดยคร่าวของลูกหม้อกลุ่ม ปตท. วัย 62 ปี คนนี้ จบการศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ วิชาเอกการเงิน The American University จากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนการศึกษาในประเทศจบสาขารัฐศาสตร์ วิชาเอกการบริหารงานคลัง (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้งจบหลักสูตรยอดนิยมอย่างการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 59 ด้วย

ส่วนการทำงานบริหารระดับสูงในองค์กรขนาดใหญ่ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ,กรรมการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC, ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC อีกทั้งยังเป็นกรรมการอิสระทั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) FSS, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) FSX, บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI, บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA โดยล้วนเป็นกิจการขนาดใหญ่อันดับต้นของแต่ละอุตสาหกรรมนั้นๆ ทั้งสิ้น

มีสัญญาณตอกย้ำ ถึงการขยับเก้าอี้ในองค์กรนี้หลังจาก "รัฐมนตรีพิชัย ชุณหวชิร" กูรูเศรษฐกิจและพลังงานวัย 75 ปี เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาล สอดรับกับทาง "ปฏิภาณ สุคนธมาน" ทยอยแจ้งลาออกจากตำแหน่งบริหารในบริษัทต่างๆ เช่น EA, BAFS และ TPBI โดยให้มีผลทันทีพร้อมทั้งแจ้งเหตุผลตัวโตว่า "มีภารกิจอื่นต้องปฏิบัติ!"

ทว่าจากบรรดาหลายๆ บริษัทมหาชนที่ลาออกดังกล่าวข้างต้นนี้ ไม่พบแต่อย่างใดว่าได้ลาออกจาก BCP ซึ่งกำลังทำหน้าที่กรรมการอยู่

ด้วยทั้งความรู้ความสามารถ วัยวุฒิ ประวัติที่ดี และที่สำคัญเป็นผู้คุ้นเคยกับประธาน BCP คนก่อน รวมเป็นคุณสมบัติที่ยากจะหารายชื่ออื่นเข้ามาเบียดเทียบ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามคาด ผู้บริหารที่จะเข้ามาใหม่นี้น่าจะสานต่อวิสัยทัศน์ และแผนงานปัจจุบันขององค์กรแห่งนี้ได้อย่างถนัด และไร้รอยต่อ ส่วนข้อได้เปรียบนอกจากเรื่องความหนุ่มแน่นกว่าวัย เป็นเรื่องของการได้รับการสนับสนุนจากรอบทิศอีกด้วย

อีกไม่นาน ชื่อตัวจริงอย่างเป็นทางการจะปรากฏ ไม่ว่าท่านประธานกรรมการบางจากคนใหม่จะชื่อ "ปฏิภาณ สุคนธมาน" หรือไม่ ก็ยังคาดหวังให้องค์กรพลังงานขนาดใหญ่แห่งนี้เปลี่ยนผ่านไปสู่ทิศทางที่ดี สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ และต่อยอดผลกำไรที่น่าพอใจให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย-นักลงทุนต่อไปเฉกเช่นที่ท่านประธานคนก่อนได้พิสูจน์ฝีมือมาแล้ว