หุ้นเวียดนามปีนี้ยังเป็นขาขึ้น เศรษฐกิจแกร่ง GDP โต 5.66%
หุ้นเวียดนามปีนี้ยังเป็นขาขึ้น เศรษฐกิจแกร่ง GDP 1/67 เติบโต 5.66% รับแรงหนุนจากการเติบโตภาคผลิตโต 6.28% ภาคบริการโต 6.12% รวมทั้งการส่งออกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนาม 1/67 เร่งตัวขึ้น 17.2%
บล.แอลเอช ระบุว่า ตลาดหุ้นเวียดนามในเดือนเมษายน 24 ปรับตัวลงกว่า 3% โดยในช่วงสงกรานต์ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากปัจจัยทั้งภายนอก และภายใน ซึ่งปัจจัยภายนอกเกิดจากภาวะสงครามอิหร่านกับอิสราเอลปะทุขึ้น และความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ช้ากว่าคาด ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก อีกทั้งปัจจัยภายในประเทศ ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง
อย่างไรก็ตามพบว่า ปัจจัยกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ไม่น่าจะขยายตัวเป็นวงกว้าง และถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำพรรค ก็มิได้ส่งผลต่อการนโยบายของประเทศ ดังนั้นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นเวียดนามถูก Price in เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งมีปัจจัยดังต่อไปนี้เป็นแรงหนุนตลาดหุ้นเวียดนาม
โดยเวียดนามเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนของต่างชาติ โดยรัฐบาลได้อนุมัติแผ่นพัฒนาพลังงาน ฉบับที่ 8 เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ส่งผลให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน 1/3567 เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 13.4%YoY เป็นเหตุให้เกิดการก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐาน และด้านพลังงาน สะท้อนจากการเติบโตของหุ้นในกลุ่มดังกล่าว เพราะฉะนั้นจึงมองว่าในระยะยาวเศรษฐกิจเวียดนามมีศักยภาพในการเติบโตสูง
ขณะที่เศรษฐกิจเวียดนามยังมีความแข็งแกร่ง โดย GDP ของเวียดนาม 1/2567 เติบโต 5.66%YoY ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตในภาคผลิตเติบโต 6.28%YoY และภาคบริการเติบโต 6.12%YoY รวมทั้งการส่งออกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามใน 1/2567 โดยเร่งตัวขึ้น 17.2%YoY อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ดังนั้นในขณะนี้การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามเป็นตัวหนุนนำให้ตลาดหุ้นมีโมเมนตัมขาขึ้นต่อไป
ส่วนการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลดีต่อกลุ่มธนาคารในประเทศเวียดนาม เนื่องจากสัดส่วน Market Capital ของกลุ่มธนาคารสูงที่สุดกว่า 40% และเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามในปีที่ผ่านมา อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 4.4%YoY นั้นมาจากปัจจัยด้านราคาพลังงาน ที่ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยมุมมองสงครามที่ไม่ขยายเป็นวงกว้าง ราคาพลังงานจึงมีโอกาสปรับตัวลดลง เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CP) ของเวียดนามพบว่า เพิ่มขึ้นเพียง 2.8%YoY ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย ด้วยเหตุนี้จึงประเมินว่า กลุ่มธนาคารยังคงได้รับแรงหนุนให้เติบโตต่อไป
นอกจากนี้ การอัปเกรดเวียดนามให้ขึ้นจากการเป็น Frontier Markets สู่ Emerging Markets เป็น Sentiment ที่ส่งให้ตลาดหุ้นเวียดนามยังคงเป็นขาขึ้นได้ในปีนี้ อีกทั้งหลังจากตลาดหุ้นเวียดนามเกิดการปรับฐาน ส่งผลให้ Valuation ของหุ้นเวียดนามปรับตัวลง โดย Forward P/E อยู่ในระดับ 11.15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ -1SD ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้นเวียดนาม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์