OR ผลงาน Q1/67 พุ่ง 25% ปั๊มกําไรสุทธิได้ 3,723 ล้านบาท

OR ผลงาน Q1/67 พุ่ง 25% ปั๊มกําไรสุทธิได้ 3,723 ล้านบาท

บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) อวดกำไร Q1/67 ที่ 3,723 ล้านบาท พุ่ง 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทว่าแรงจัดกว่า 1,829% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พร้อมยังเดินหน้าดัน “โอ้กะจู๋” เข้าตลาดหุ้นไทยขาย IPO โดยยื่นไฟลิ่งไปแล้ว

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบการเงินรวมไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 มีกําไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2,975 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นกว่า 1,829% จากไตรมาส 4 ปี 2566 ที่ผ่านมาซึ่งทำได้ 193 ล้านบาท
 

ผลการดำเนินงาน Q1/2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้ขายและบริการ 177,867 ล้านบาท ลดลงจาก Q1/2566 ที่ทำได้ 197,414 ล้านบาท และยังลดลงจาก Q4/2566 ที่ทำได้ 192,542 ล้านบาท โดยหลักการปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนมาจากปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงทั้งในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และธุรกิจตลาดพาณิชย์ ของกลุ่มธุรกิจ Mobility โดยไตรมาสนี้รายได้ขายและบริการของกลุ่มธุรกิจ Mobilityลดลง 8.6% ตามปริมาณจำหน่าย ถึงแม้ว่าราคาขายเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 0.5% จากกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอื่นและ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 10.9% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์และกัมพูชา

ขณะที่ Q1/2567 มี EBITDA จำนวน 6,173 ล้านบาท เพิ่มจาก Q1/2566 ที่ทำได้ 5,927 ล้านบาท และยังเพิ่มจาก Q4/2566 ที่ทำได้ 2,523 ล้านบาท

โดยกลุ่มธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอื่น สำหรับภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิลดลง โดยหลักจากค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (Share of gain from investments) ภาพรวมมีผลติดลบเนื่องจากมีรายการปรับปรุงการอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนในบริษัทร่วมทุนในประเทศเมียนมา สำหรับ Share of gain from investmentsในกิจการอื่นปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยโดยหลักจาก บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (Thappline) ในไตรมาสนี้สกุลเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ทำให้ใน Q1/2567 ทาง OR มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 3,530 ล้านบาท (+>100%) และคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท

นอกจากนี้บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ซึ่ง OR เป็นผู้ถือหุ้น 20% ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือขี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขออนุมัติการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดย OKJ เป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้คอนเซ็ปท์ “Be Organic from Farm to Table” โดยเน้นการปลูกผัก ผลไม้ แบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) 

ทั้งนี้ร้านอาหาร“โอ้กะจู๋” เป็นร้านอาหารสุขภาพที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และสนับสนุนสินค้าผักผลไม้สดออร์แกนิคที่มาจากเกษตรกรที่ทำการเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างรายได้และอาชีพ รวมทั้งโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับสังคม และชุมชนอีกด้วย

และ ณ สิ้น 31 มี.ค. 2567 บริษัทฯ มีจํานวนสถานีบริการ 2,262 สถานี (รวมสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยและเมียนมา), EV Station PluZ จำนวน 835 สถานี (เปิดบริการแล้วทั้งในและนอกสถานีบริการ) และสถานีบริการ LPG จำนวน 228 สถานี (ไม่รวมสถานีบริการ LPG ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานีบริการน้ำมัน)