หุ้น CCET ติดเทอร์โบ นิวไฮรอบเกือบ 3 เดือน กำไร Q1/67 โต 103% คาดงบยังแรงได้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว หุ้น บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET หลังเปิดตลาดเช้าวันนี้ 15 พ.ค. 2567 ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ณ เวลา 10.24 น. สูงสุดอยู่ที่ 3.02 บาท คิดเป็นการปรับขึ้นราว 12-13% จากวันทำการก่อนหน้า อีกทั้งเป็นสถิติราคาหุ้นสูงสุดในรอบใกล้เคียง 3 เดือน นับแต่หลังวันที่ 19 ก.พ. 2567

CCET ประกาศกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) ไตรมาสที่ 1  สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 ที่ 556.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งทำได้ 273.78 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่ม 103.2%

อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า เท่ากับ 881.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่ากับ 31,679.42 ล้านบาท) ซึ่งลดลงร้อยละ 18.43 จากปี 2566 ทั้งนี้การลดลงของรายได้จากความต้องการของตลาดโลกโดยรวมที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

แต่ในส่วนของค่าใช้จ่ายการขายและบริหารลดลงเล็กน้อยราว 2.39% จากการปรับโครงสร้างภายใน รวมถึงมีการลดค่าใช้จ่ายทางการตลาด 

ยิ่งไปกว่านั้น ไตรมาส 1/2567 ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพียง 6.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่า 238.90 ล้านบาท) ซึ่งปรับลดลงร้อยละ 51.28 จากปี 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีกับที่ผ่านมา ทั้งนี้การลดลงของค่าใช้ง่ายทางการเงินส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของเงินกู้ยืมจากธนาคารที่ใช้ในการสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย และการขยายโรงงานในประเทศไทย 

ทำให้ในไตรมาส 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 15.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือเทียบเท่า 541.48 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 82.15 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกันปีก่อนหน้านี้ และอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.77 จากปี 2566 เป็นร้อยละ 1.71 ในปี 2567 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการบริหารธุรกิจโดยรวมที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเมินแนวโน้มกำไรครึ่งแรกปี 2567 จะโตแบบ YoY จากดอกเบี้ยจ่ายที่จะลดลงมาก หลังจากที่ CCET จ่ายคืนหนี้ที่กู้มาเพื่อสร้างโรงงานซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก โดยใช้เงินจากการเพิ่มทุนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา 

โดยตั้งเป้าหมายจะลดดอกเบี้ยจ่ายในส่วนนี้ลงให้ได้ปีละ 486 ล้านบาท ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัว ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในครึ่งปีแรกเติบโตได้แบบ YoY และในครึ่งปีหลังโรงงานแห่งใหม่ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ Free trade zone จะเริ่มเปิดทำการผลิตได้ จึงประเมินแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะโตเด่น ทั้งเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก และเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน