หุ้น BANPU บวกแรง 8.41% รับอานิสงส์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาก๊าซสหรัฐขยับขึ้น
หุ้น BANPU ปรับบวกขึ้นแรง 8.41% ราคาเพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 5.80 บาท รับอานิสงส์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ และราคาก๊าซสหรัฐขยับขึ้น "โบรกเกอร์" แนะเทรดดิ้ง
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 20 พ.ค.2567 หุ้น BANPU หรือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ปรับบวกขึ้นมา 8.41% หรือราคาเพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 5.80 บาท
วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หลังจากที่มีการกระตุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ตลาดคาดว่า จะมีการหนุนกลุ่ม Commodity ขึ้นมา บวกกับราคาก๊าซในสหรัฐที่ขยับขึ้นมาต่อเนื่อง และหุ้น BANPU ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้มีการขยับมากนัก จึงเป็นลักษณะ Laggard Play ในกลุ่ม Commodity ด้วย
โดยแนะนำนักลงทุนเทรดดิ้ง วันนี้ราคา BANPU ขึ้นมาค่อนข้างแรง และกำลังจ่อแนวต้านประมาณ 5.80 บาท หากผ่านไปได้ที่ 6.10 - 6.20 บาท ได้ถือว่าดี แต่ถ้าผ่านไม่ได้ ถือว่าเป็น Sideways ซึ่งด้านล่างมองกรอบอยู่ที่ 5.25 บาท ด้านบน 5.80 บาท
ปรินทร์ นิกรกิตติโกศล นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ประกาศกำไรสุทธิ 1Q67 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุน 1.2 พันล้านบาทใน 4Q66 แต่ -69%YoY สูงกว่าที่เราประเมินไว้ที่ 804 ล้านบาท เนื่องจากบันทึกกำไร Hedging 2.9 พันล้านบาท ซึ่งคาดไว้ 1.3 พันล้านบาท
นอกจากนี้ รายการพิเศษได้แก่ กำไร FX 3.1 พันล้านบาท กำไร Hedging 2.9 พันล้านบาท ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจากเงินบาทอ่อนค่า 2.6 พันล้านบาท
หากนับเฉพาะผลการดำเนินงานปกติจะพลิกเป็นขาดทุน 1.8 พันล้านบาท อ่อนแอลงQoQ และYoY โดยหลักมาจากธุรกิจถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติมีปริมาณขายลดลง QoQ และYoY รวมทั้งผลกระทบจากการปรับตัวลงของราคาพลังงานในตลาดโลกส่งผลให้กำไรขั้นต้น -41%QoQ และ -53%YoY โดยGPM ธุรกิจถ่านหินทำได้ 26% หรือเทียบกับ 27% ใน 4Q66 และ 42% ใน 1Q66 และธุรกิจก๊าซพลิกเป็น -6% เทียบกับ 4Q66 และ 15% ใน 1Q66)
ขณะที่เหมืองถ่านหินอินโดนีเซียแม้ราคาขายอยู่ที่US$97.3/bbl ใกล้เคียง 4Q66 จากกลยุทธ์การตลาดทำให้รักษาระดับราคาขายได้ดีกว่าราคา Benchmark อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานอ่อนแอลง QoQ จากปริมาณขายเหลือ 5 ล้านตัน หรือ -12% QoQ จากการเข้าสู่ฤดูฝน และต้นทุนขาย +3%QoQ
ด้าน เหมืองถ่านหินออสเตรเลียแม้ราคาขายเฉลี่ยขยับขึ้นเป็น AS$184/ตัน หรือ +2% QoQ จากสัญญาซื้อขายถ่านหินในประเทศฉบับใหม่ อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานชะลอตัวเล็กน้อยQoQ เนื่องจากปริมาณขายเหลือ 1.6 ล้านตัน หรือ -10% QoQ เพราะเป็นช่วงย้ายเครื่องจักร Longwall และต้นทุนขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจากปริมาณขายต่ำลง
ธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ อ่อนแอลงมาก GPM พลิกเป็นติดลบจากปริมาณขายทำได้ 74.7 bcf หรือ -3% QoQ ขณะที่ราคาก๊าซเหลือ US$2.1/mcf หรือ -16% QoQ จากปริมาณสำรองในสหรัฐ สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีและอุปสงค์ถูกกดดันจากอากาศไม่หนาวเย็นเท่าที่คาด
และธุรกิจไฟฟ้าแม้โรงไฟฟ้าถ่านหินในจีนจะดีขึ้นQoQ จากอุปสงค์ไฟฟ้า-ไอน้ำทั้งนี้ผลการดำเนินงานถูกถ่วงด้วยแผนปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสา BLCP Nakoso,ขาดทุนFX ของBLCP, โรงไฟฟ้าTemple I & II พลิกเป็นขาดทุนจากอากาศอบอุ่นกว่าคาดในสหรัฐ
แม้ราคาพลังงานในตลาดโลกยังเป็นปัจจัยกดดันผลประกอบการโดย 2QTD ราคาก๊าซ Henry Hub เฉลี่ย US$1.9/mmbtu -11% QoQ อย่างไรก็ตามเราคาดกำไรปกติ 2Q67 จะทยอยฟื้นตัวจากฐานต่ำ QoQ และYoY เนื่องจากกลยุทธ์ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และควบคุมต้นทุนจะเห็นผลบวกมากขึ้น รับรู้การผลิตของเหมืองใหม่ในอินโดนีเซียเต็มไตรมาส, แผนย้ายเครื่องจักร Longwall ลดลงส่งผลให้ปริมาณขายถ่านหินในอินโดนีเซีย และออสเตรเลียฟื้นตัว
นอกจากนี้ราคาก๊าซธรรมชาติล่าสุดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวแตะระดับUS$2.3/mmbtu เพราะอุปทานได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พายุ และการเริ่ม Restocking ขณะที่ราคาถ่านหินนิวคาสเซิล 2QTD อยู่ที่ US$137/ตัน หรือ +8%QoQ
โดย กำไรสุทธิ 1Q67 คิดเป็น 27% ของทั้งปีแต่ผลการดำเนินงานหลักยังอ่อนแอทำให้คาดการณ์กำไรปกติปี 2567 ที่ 5.7 พันล้านบาท หรือ -33%YoY
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น-20% YTD ถือว่าสะท้อนข่าวลบจากราคาก๊าซธรรมชาติ -9% YTD และงบ 1Q67 ไม่เด่นไปบ้างแล้วปัจจุบันซื้อขายบน PBV ต่ำเพียง 0.4 เท่า หรือ -2.4 SD โดยเราคงมุมมองเป็นกลางแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 6.60 บาทเพราะ Risk vs Reward ยังไม่น่าสนใจเนื่องจากเป็นช่วง Low season ของการใช้พลังงาน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์