OR คาดผลงาน Q2/67 ยังโตต่อ เริ่มผุดร้านสุขภาพความงาม Q3/67
บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) คาดผลงาน Q2/67 ยังโตต่อจากโค้งแรก และเชื่อปริมาณขายน้ำมันรวมทั้งปีจะขยายตัวตามจีดีพี ปีนี้เพิ่มสาขาปั๊ม 100 แห่ง เพิ่มสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอน ในกรอบ 350 แห่ง และเริ่มธุรกิจร้านสุขภาพความงาม 3-4 แห่ง ผุดร้านแรก Q3/67 นี้
นางสาวปิติรัตน์ รัตนโชติ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า บริษัทฯ มั่นใจภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 2567 ทุกธุรกิจโดยเฉพาะในกลุ่มน้ำมันจะมีปริมาณการขายขยายตัวตามการเติบโตของจีดีพีประเทศไทยได้ อีกทั้งประเมินงบการเงินไตรมาส 2/2567 จะขยายตัวต่อจากไตรมาสแรกเช่นกัน ผลดีจากรายได้หลักการขายน้ำมันมีทิศทางเติบโตทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้งบการเงิน OR ไตรมาส 1/2567 รายได้ขายและบริการเท่ากับ 177,867 ล้านบาท และมีกําไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท
พร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวกรอบราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบอยู่ที่ 79-89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลสำหรับปี 2567 นี้
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังคือ ความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ระดับโลกซึ่งส่งผลตรงต่อความผันผวนของราคาน้ำมันอันเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อธุรกิจ รวมถึงสถานการณ์เงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย
OR จำแนกธุรกิจได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Mobility กลุ่มธุรกิจ Lifestyle กลุ่มธุรกิจ Global และธุรกิจอื่นๆ
โดยกลุ่ม Mobility ยังมีเป้าหมายเป็นปั๊มน้ำมันอันดับ 1 โดยจะขยายสาขาปีนี้เพิ่มอีก 100 แห่งในประเทศ ส่วนปั๊มในต่างประเทศอาจจะเปิดแค่เพียงเล็กน้อย พร้อมประเมินกรอบ Marketing Margin ขายน้ำมันอยู่ที่ 0.70 บาท ถึง 1.20 บาท
กลุ่มธุรกิจ Lifestyle มั่นใจจำนวนยอดขายจากร้านคาเฟ่ อเมซอน จะเติบโตต่อไปหลังจากไตรมาสแรกมียอดขายถึง 99 ล้านแก้ว ซึ่งงบลงทุนรวมในทุกกลุ่มธุรกิจทั้งปีนี้ที่วางไว้ 23,000 ล้านบาท ยังเน้นด้านธุรกิจ Lifestyle เป็นหลัก
แผนขยายจำนวนสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอนตั้งกรอบไว้ที่เพิ่มอีก 350 แห่งในปีนี้ ทว่าจะคัดสรรเฉพาะทำเลที่มีศักยภาพเท่านั้นพร้อมเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในร้านมากกว่าจำนวนร้าน
ส่วนธุรกิจสุขภาพความงามจะมีการเปิดร้านให้บริการแห่งแรกไตรมาส 3 ปีนี้ แถบชานเมืองกรุงเทพฯ หลังจากนั้นจะทยอยเปิดเพิ่มอีก 2-3 ร้านภายในปีนี้ และปี 2568 จะเปิดเพิ่มอีก 10 ร้าน
นอกจากนี้ยังมีแผนซื้อหรือควบรวมกิจการธุรกิจที่น่าสนใจอยู่ บริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนอยู่หลายรายเพื่อต่อยอดธุรกิจ Lifestyle
ด้าน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ซึ่ง OR เป็นผู้ถือหุ้น 20% อยู่ระหว่างขออนุมัติการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) นั้น OR จะคงสัดส่วนการถือหุ้น 20% ต่อไปภายหลังเข้าตลาดหุ้นไทย