หลอกลงทุนหุ้น 800 ล้าน บุกจับแม่ยายแก๊งจีน-มาเลย์ ต้มตุ่นผ่าน Facebook
ล่า! หลอกลงทุนหุ้น 800 ล้าน ตำรวจบุกจับแม่ยายแก๊งจีน-มาเลย์ ต้มตุ่นผ่าน Facebook เปิดโปงโกง ออกหมายจับผู้ต้องหา 50 กว่าราย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
กรณี หลอกลงทุนหุ้น 800 ล้าน แก๊งจีน - มาเลย์ต้มตุ่น ผ่าน Facebook ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.กุลสิริยาฯ ในข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
- เปิด หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือ ยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน โดยประการที่รู้ หรือ ควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด
- สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
- มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรม หรือโดยรู้เจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว อันเป็นความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ตำรวจจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 19 ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
แก๊งจีน-มาเลย์ ต้มตุ่นผ่าน Facebook หลอกลงทุนหุ้น
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนผ่านเพจเฟซบุ๊ก เพื่อ หลอกลงทุนหุ้นต่างประเทศ
โดยมีการแอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการเทรดหุ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือโดยอ้างว่ามีผลตอบแทนสูง ในช่วงแรกสามารถทำกำไรได้จริงและสามารถถอนเงินได้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินลงทุนเพิ่มเติมจำนวนมากอีกหลายครั้ง
แต่สุดท้ายผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยคนร้ายอ้างว่าหากผู้เสียหายต้องการถอนเงินจะต้องวางเงินประกันการลงทุนเพิ่มเติม และจะต้องเสียภาษี 20% ของกำไรจึงจะสามารถถอนเงินได้
เมื่อผู้เสียหายทำตามที่คนร้ายแจ้งก็ยังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยอ้างว่า
- เสียค่าธรรมเนียม
- ค่าประกัน
- ค่าภาษีเพิ่มเติม
เป็นข้ออ้างไปเรื่อยๆ เมื่อทำการตรวจสอบแอปพลิเคชันดังกล่าวพบว่า ไม่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่อย่างใด
เบื้องต้นพบว่า มีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 800 ล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และ ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. ได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ท.ประภาส วังงาม สว.กก.3 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินการ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ร่วมกันสืบสวนอย่างละเอียดจนทราบข้อมูลและผู้ที่มีส่วนร่วมในกระบวนการหลอกลงทุนดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน
ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 50 กว่าราย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปฏิบัติการ “CIB breaks up online scam syndicate ปฏิบัติการสกัดภัยอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ”
สามารถจับกุมผู้ต้องหาในกระบวนการได้แล้ว 20 กว่าราย อีกหนึ่งรายคือ น.ส.กุลสิริยาฯ ซึ่งเป็นผู้ใช้บัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) ภายในประเทศไทยในการรับผลประโยชน์จากชาวมาเลเซีย
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. และทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย