ดาวโจนส์ร่วง 216 จุด กังวลเฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(28พ.ค.)ปรับตัวลง 216 จุด ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังเจ้าหน้าที่เฟดต่างส่งสัญญาณต้องการเห็นเงินเฟ้อชะลอตัวต่อไปอีกหลายเดือน ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 216.73 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 38,852.86 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 5,306.04 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 99.09 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 17,019.88 จุด
ราคาหุ้นของ T-Mobile และ US Cellular ต่างพุ่งขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ขานรับ T-Mobile บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการส่วนใหญ่ของ US Cellular
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวานนี้ เนื่องในวัน Memorial Day
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลที่ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตและภาคบริการ รวมทั้งตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ย.
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประสานเสียงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 6 มิ.ย.
หาก ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. ก็จะทำให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าเฟด
ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 31 พ.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)