'แมนพงศ์’ แคนดิเดตผู้จัดการ ตลท. แผน ‘ปลุกชีพ’ หุ้นไทย

'แมนพงศ์’ แคนดิเดตผู้จัดการ ตลท.   แผน ‘ปลุกชีพ’ หุ้นไทย

หลังผ่านช่วงเวลายื่นสมัครเพื่อ ชิงตำแหน่งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คนที่ 14 ไปแล้วทำให้บรรดาผู้สมัครต้องเตรียมทำการบ้านตลาดทุนไทยส่งกรรมการตลท. เพื่อพิจารณา

      หนึ่งในด่านสำคัญหนีไม่พ้นการ “โชว์วิสัยทัศน์” ในการเป็นเบอร์ 1 องค์กรเพื่อนำพาตลาดทุนไทยหลุดจากความกังขา “ความเชื่อมั่น” และยังต้องเป็น “คีย์แมน” สำคัญหาโอกาสจุดแข็งเดิม เพิ่มเติมโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดหุ้นภูมิภาคเดียวกัน

    ดังนั้น ‘การบ้าน’ ดังกล่าว ย่อมต้องการผู้ที่เข้าใจและเห็นการเปลี่ยนแปลงในตลาดทุนไทยไปพร้อมกัน  บรรดาผู้ชิงตำแหน่งที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่ยอมรับแล้วว่าพร้อมจะโชว์แผนงานที่ดำเนินงานอยู่และยังต้องสานต่อในฐานะหนึ่งในผู้บริหารตลท. นำพาตลาดทุนไทยช่วงรอยต่อ  

    “แมนพงศ์ เสนาณรงค์ ” รองผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท.  “ยอมรับการเข้าร่วมชิงตำแหน่ง” และเปิดเผยถึงแผนงานตลาดทุน ซึ่งมีทั้งที่ดำเนินการอยู่แล้วภายใต้บทบาทหน้าที่ปัจจุบัน และที่เตรียมจะดำเนินการในอนาคต 

โดยแผนการระดมทุนท่ามกลางภาวะตลาดหุ้น   ‘ช่วงตกอับ’  แต่ทุกครั้งจะมีธีมที่ ‘ปลุกตลาดหุ้นไทย’ กลับมาได้ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 สถาบันการเงินใช้ตลาดทุนระดมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสีย วิกฤติ dot-com ปี 2543 

ตัวปลุกตลาดหุ้นคือการแปลงรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหุ้น  วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2561 มีธุรกิจในประเทศรายใหญ่  มีแบรนด์เป็นที่รู้จัก และธุรกิจครอบครัวเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น  

    และ วิกฤติปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญ ‘ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์’ ที่เกิดขึ้นและกระทบทั่วโลก การปลุกตลาดหุ้นรอบนี้จึงมองว่า ธุรกิจกลุ่มใหม่แต่ใหญ่พอและมีแบรนด์เป็นที่รู้จัก ซึ่งไม่จำกัดแค่ธุรกิจในไทยอีกต่อไปทั้งขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี หรือสตาร์ทอัพ เท่านั้น เพราะยังมีธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย หรือร่วมลงทุนในไทยมีธุรกิจในภูมิภาค และระดับโลก   ธุรกิจ new economy  และบริษัทจดทะเบียนที่เตรียมจะนำธุรกิจแข็งแกร่งเข้าจดทะเบียน  และสินทรัพย์ธุรกิจของครอบครัว 

   การเพิ่มบริษัทจดทะเบียนจะพร้อมกับการปรับ “ดาต้า แพลตฟอร์ม” และ “วิเคราะห์ข้อมูล”  ซึ่งมาจากบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นแต่อ่านยากและกระจัดกระจาย  หน้าที่ของตลท.นำข้อมูลเหล่านี้ให้ นักลงทุนเข้าถึงได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มและ AI on data analytics  รวมไปถึงสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นการโรดโชว์  ไทยแลนด์โฟกัส หรือ Opp day 

    งานมาร์เก็ตติ้งตลาดทุนไทยเดินหน้าหาโอกาสใหม่และเมื่อถูกถามงานด้าน "การกำกับบจ. และการซื้อขาย" เป็นคำถามใหญ่ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา   แม้จะไม่ใช่บทบาทโดยตรงแต่เป็นด่านแรกด้านการซื้อขาย ดังนั้น บทบาทหน้าที่การเฝ้าระวังแทนผู้ลงทุนและทำงานควบคู่ไปยังผู้กำกับดูแล คือ สำนักงานก.ล.ต.  ต้องเข้มแข็งด้วย  

     ดังนั้นตลท. จึงพยายามให้ข้อมูลมากขึ้นกับผู้ลงทุน ทำ Financial Health Check Tools  รวมทั้งดึง AI มาบริหารจัดการข้อมูลที่มีจำนวนมากและคัดกรองข้อมูลที่มีปัญหาเพื่อนำมาเปิดเผยกับนักลงทุน 

    “การโชว์วิสัยทัศน์  อยู่ในแผนงานที่มีทั้งดำเนินการไปแล้ว ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และยังไม่ได้ทำอีกหลายเรื่อง  ซึ่งการเข้าเสนอชื่อในตลาดทุนวันนี้ตนไม่ทราบว่ามีใครเข้าสมัครบ้าง แต่ในส่วนของตนเองก็ยอมรับว่าสมัครชิงตำแหน่ง ”  

     บรรดาผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งผู้จัดการตลท. คนที่ 14 ในรอบนี้ นอกจากวัดความสามารถที่ต้องมีรอบด้านแล้ว ยังต้องเข้าใจตลาดหุ้นในไทยนาทีนี้ด้วยว่าขาดและต้องเสริมในจุดไหนเพื่อให้ฐานนักลงทุนเชื่อมั่นและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนที่พลวัตรรอบด้านเปลี่ยนแปลง