หุ้นไทยวันนี้ 6 มิ.ย.67 เคลื่อนไหวแดนบวก 1,330-1,350 จุด แรงหนุน ดัชนี S&P500 Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่

หุ้นไทยวันนี้ 6 มิ.ย.67 สรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แรงหนุนจาก Sentiment โดยดัชนี S&P500 และดัชนี  Nasdaq ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวิติการณ์ โดยหุ้น NVIDA ที่ปิดบวกกว่า  5% ส่งผลให้มูลค่าตลาดเกิน 3 ล้านล้านเหรียญแซงหน้า APPLE ขึ้นอันดับ  2 รองจาก Microsoft และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับลดลงที่ระดับ 4.277% และ 2 ปีที่ระดับ 4.724% จากตัวเลข ตลาดแรงงานที่ทยอยประกาศออกมาอ่อนแออย่างต่อเนื่อง 

ปัจจัยภายในประเทศยังคงถูกกดดันจากปัจจัยด้านการเมือง นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน MTD 2.3 พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี YTD 8.45 หมื่นล้านบาท 
 
 

กลยุทธ์การลงทุน:

กลยุทธ์การลงทุน ให้เล่นหุ้น “Global play” หลีกเลี่ยงหุ้น “Domestic  play” ภาคใต้ปัจจัยด้านการเมืองภายในประเทศที่กดดันตลาดหุ้น แนะนำหุ้นส่งออก กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อย่าง DELTA คาดได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าระดับ 36.5-36.8 บาทต่อดอลล่าร์ รวมถึงหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกปรับตัวขึ้น  บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้และยอดขายไว้แบบตัวเลข 2 หลัก (Double Digits) จากปี 2566 โดยในไตรมาส 2/2567 มองว่า ภาพรวมธุรกิจ และอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีและเชื่อว่าจะดียิ่งขึ้นในครึ่งหลังปีนี้ ลูกค้ายังคงมีการส่งคำสั่งซื้อใหม่ ๆ เข้ามาให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่สั่งล่วงหน้าถึง 6 เดือน  ทำให้มีแบ็กล็อก ในมือที่ค่อนข้างหนาแล้วในตอนนี้  ราคาพื้นฐานที่  79 บาท

และหุ้น “Defensive play”  ในกลุ่มโรงพยาบาลอย่าง BDMS เล่นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในภาวะที่ตลาดหุ้นไม่แน่นอน BDMS รายงานกำไรปกติไตรมาส 1/2567 ที่ 4.07 พันลบ. สูงกว่าที่เราคาด 2%  เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ต่ำกว่าคาด และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรปกติเติบโต 3% QoQ และ 17% YoY ผู้บริหารคงเป้าหมาย ปี 2567 ด้วยการเติบโตของรายได้ที่ 10-12% และอัตรากำไร EBITDA ที่ 24-25% ราคาพื้นฐานที่ 33.10 บาท  

คาด SET เคลื่อนไหวแดนบวก ได้ในกรอบ 1,330-1,350 จุด

ประเด็นสำคัญวันนี้ที่ต้องติดตาม

วันพฤหัสฯ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลาดคาดอาจมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายลดลงจาก 4.50% เป็น 4.25% ต่อด้วยรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.19 แสนตำแหน่ง 

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออกของจีน เดือน พ.ค. เทียบกับก่อนหน้าที่ +1.5% YoY และ ตัวเลขนำเข้าของจีนเดือน พ.ค.เทียบกับก่อนหน้าที่ +8.4% YoY ต่อด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm  payrolls) เดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.80 แสนตำแหน่งเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.75 แสนตำแหน่ง ต่อด้วย ตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน พ.ค.ตลาดคาดการณ์ที่ 3.9% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า