ชิงดำผู้จัดการตลท.เดือด เคาะวันนี้‘อัสสเดช’เต็ง

ชิงดำผู้จัดการตลท.เดือด   เคาะวันนี้‘อัสสเดช’เต็ง

ตลท. เปิดชื่อ “ผู้จัดการตลท.” คนที่ 14 หลังบอร์ดประชุมเคาะรายชื่อไฟนอลวันนี้ 9.00 น. คู่ชิงดำ 2 รายจาก 9ราย “อัสสเดช –อัฎฐ์ ” เผยโปรไฟล์ตลาดทุนไม่ธรรมดาทั้งคู่ผ่านงานระดับโกลบอล-พ่วงคอนเน็กชั่นการเมืองพรึ่บ ส่วน “แมนพงศ์” ยื่นลาออกตลท.มีผล ก.ค. นี้

        เหลือเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงตลาดทุนไทยจะได้รายชื่อ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)  คนที่ 14   จากการเปิดเผย 1 ในบอร์ด ตลท. ระบุการ ประชุมบอร์ดวันนี้ (14 มิ.ย.) เวลา 9.00 น. มีวาระสำคัญเคาะรายชื่อ ผู้จัดการตลท. คนที่ 14  ในรอบสุดท้ายและน่าจะสามารถประกาศรายชื่อได้ภายในวันเดียวกัน

     

         การดำเนินการคัดเลือก ผู้จัดการ ตลท. คนที่ 14 ยาวนานถึง1 เดือนครึ่งหลังจากเปิดรับสมัครมาตั้งแต่ 9 เม.ย. – 30 เม.ย. 2567 ปรากฎยังไม่มีการส่งรายชื่อผู้สมัครเข้ามาตามกำหนด จนทำให้ทางบอร์ด ตลท. ต้องประกาศขยายระยะเวลาเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกออกไปจนถึง 15  พ.ค. 2567

     จนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนปิดรับสมัครมีผู้ที่ยื่นใบสมัครเข้ามามากถึง 9 ราย ซึ่งทางบอร์ดได้ให้ส่งแผนงานและสัมภาษณ์ รวมทั้งให้โชว์วิสัยทัศน์ด้านตลาดทุนในรอบที่ 1 จนผ่านคัดเลือกเข้ารอบ 2 ที่ 2 ปรากฎมี 2รายชื่อที่ชิงดำตำแหน่งดังกล่าว

      

       ประกอบไปด้วย “อัสสเดช  คงสิริ “  และ “อัฎฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ”   ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลในแวดวงตลาดทุน

        สำหรับ “อัสสเดช”  ร่วมงานกับดีลอยท์ ประเทศไทย ปี 2565  ในฐานะหัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางการเงิน มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในการทำงานกับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในด้านวานิชธนกิจ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย ธนาคารแห่งชาติอเมริกา เมอร์ริลลินซ์  ซึ่งเป็นโบรกต่างชาติที่ขนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาร่วมงาน Thailand Focus ร่วมกับ ตลท.  ปี 2554  

     โดยมี ผลงานที่โดดเด่น ช่วงที่เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟินันซ่า  ปี 2563 ใน ฐานะที่ปรึกษาการเงิน  บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ด้วยการเสนอแผนจัดหาเงินทุนแปลงหนี้เป็นทุน หรือเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิม หรือเปิดรับทุนจากพันธมิตรใหม่ ซึ่งยังได้ ทำงานร่วมกับศาตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของ THAI และปัจจุบันได้รับเลือกเป็นประธานตลท. คนปัจจุบันเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2567

      ขณะที่  “อัฎฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์”  จบปริญญาโท  Master of Business Administration, Sasin Graduate Institute of Business Administration, Chulalongkorn University   การอบรมหลกัสตูรกรรมการ  Director Accreditation Program (DAP59/2549), Audit Committee Program (ACP 34/2554), Advanced Audit Committee Program (AACP 28/2561)

      โดยดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอส อี ดิจิทัล จำกัด บริษัทที่ให้บริการด้านที่ปรึกษาทางการเงินในการออกสินทรัพย์ดิจิทัล  ที่เรียกว่า ICO Portal (Initial Coin Offering Portal) บริษัทในเครือของ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมีโก้ จำกัด 

       จากนั้นเปลี่ยนผู้ถือหุ้นและปรับโครงสร้าง ยังดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด  และเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการทำดีล digital asset ครั้งแรกของไทย  “สิริฮับ” โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกของไทย ด้วยการอ้างอิงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างโครงการ “สิริ แคมปัส”  ภายใต้โครงการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI   

         และยังประธานสมาคมและผู้แทนสมาชิกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO)

“แมนพงศ์” ไขก็อก ยื่นลาออกตลท. ไร้ลุ้น   

      นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์  รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์  ตลท.  เปิดเผย การ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง13 มิ.ย. ให้กับผู้ที่มีอำนาจพิจารณาเป็นที่เรียบร้อยจะมีผล 30วันนับตั้งแต่วันที่ยื่น   ซึ่งสาเหตุที่ยื่นลาออกมาจากแผนงานการนำเสนอวิสัยทัศน์เพื่อสมัครเลือกผู้จัดการตลท. คนที่ 14  นั้นอย่างไม่เป็นทางการไม่ผ่านในรอบที่ 2

     หลังรอบแรก บอร์ด ตลท. ให้มีการสัมภาษณ์  ส่งแผนงาน และโชว์วิสัยทัศน์  ซึ่งได้นำแผนงานตามที่ได้แถลงข่าวครบรอบเข้าสู่ปีที่ 50 ของตลท. ที่ผ่านมา และมีเพิ่มเติมด้านอื่นๆ  เพื่อผลัดดัน ตลท.ที่เผชิญปัญหาซัพพรายหาย (บจ.)  และ ดีมาร์ท (สภาพคล่อง)ลดลง   ส่งผลทำให้มีผลกระทบต่อตลาด

    “ได้ยื่นสมัครวันสุดท้ายและบอร์ดได้สัมภาษณ์ – แสดงวิสัยทัศน์รอบแรกได้รับข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่าไม่มีรอบ  2   มองว่าแผนงานที่ได้นำเสนอไปเมื่อไม่ผ่านก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งตนอายุ 56 ปี ทำงานมาตลอด 32 ปีแวดวงตลาดทุนไม่เคยหยุดจะได้พักจากงานหลังจากนี้แล้ว   ”