NEX เปิดไทม์ไลน์แจงยิบต่อ ก.ล.ต. กรณี "ซีอีโอ" รายงานขายหุ้นล่าช้า
ประธานกรรมการ NEX แจงต่อ ก.ล.ต. กรณี "ซีอีโอ" และ "ผู้ที่อยู่กินฉันภรรยา" เทขายหุ้นแต่รายงานล้าช้า ระบุการเปิดเผยข้อมูลเป็นไปตามกระบวนการ ด้าน "คณิสสร์" เผยไทม์ไลน์สถานการณ์ช่วงหุ้นร่วง เม.ย. 67 - 15 พ.ค. 67 ส่วนเรื่องรายงานล่าช้าเพราะยังไม่นิ่งเกรงโดนสั่งขายเพิ่ม
บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ส่งเอกสารรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงส่งสำเนาแจ้งต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงกรณีการแจ้งข้อมูลรายงานขายหุ้นล่าช้าอ้างอิงหนังสือของ ก.ล.ต.เลขที่ กลต.จท.-2.2397/2567 โดยเอกสารรายงานเปิดเผยในสาระสำคัญดังนี้
พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ ประธานกรรมการ NEX เปิดเผยว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงซึ่งบริษัทได้รับอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้สอบถามมายังคณะกรรมการบริษัทขอให้ชี้แจงว่า 1.คณะกรรมการการบริษัทได้รับทราบข้อมูลการจำหน่ายหุ้นของนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา (นายคณิสสร์) และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยาของนายคณิสสร์ ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 และ 2. บริษัทจะมีมาตรการสอบทานข่าวที่เผยแพร่ผ่านตลาดหลักทรัพย์อย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องต่อผู้ลงทุนนั้น
ก่อนการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2567 วันที่ 11 มิถุนายน 2567 คณะกรรมการบริษัทได้รับทราบจากข่าวที่นายคณิสสร์ เผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ว่านายคณิสสร์และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภริยาได้จำหน่ายหลักทรัพย์ (หุ้น NEX) ซึ่งตามข่าว มิได้ระบุว่าได้จำหน่ายหุ้นบริษัทออกไปจำนวนเท่าใดและราคาเท่าใด
สำหรับการเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมติคณะกรรมการและข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ของบริษัทที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทถือเป็นภาระหน้าที่อันสำคัญที่จะต้องเปิดเผยให้แก่นักลงทุนและบุคคลทั่วไปทราบ โดยผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยมติต่างๆ รวมทั้งข้อมูลภายในที่สำคัญของบริษัทนั้น คณะกรรมการได้กำหนดให้ฝ่ายบริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในบริษัทจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องและครบถ้วนตามสมควร
อนึ่ง สำหรับการประชุมคณะกรรมการที่กล่าวถึงดังกล่าว มีเพียงวาระพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท แต่ไม่มีวาระการรายงานการจำหน่ายหลักทรัพย์
ด้านนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX เปิดเผยโดยสรุปว่า ระยะเวลาที่เกี่ยวข้องกับการถือครองหุ้นเป็นดังนี้
-ในช่วงเดือนเมษายน 2565 ข้าพเจ้า (นายคณิสสร์) เข้าทำสัญญากับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อการถือครองหลักทรัพย์ โดยเป็นแบบบัญชีมาร์จิน (Margin Account)
-ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 – 14 พฤษภาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์มีการ Call Margin แต่ข้าพเจ้ายังมีเงินสด หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เพื่อเป็นหลักประกันอยู่
-ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2567 ราคาหุ้นของบริษัทได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
-ช่วงตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์มีการ call margin แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถวางเงินสดหรือหลักประกันเพิ่มเติมได้ จึงโดน Forced Sell หลายราคา และหลายช่วงเวลา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. ฝ่ายบริหารของบริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าบริษัทไม่มีพัฒนาการใด ๆ นอกเหนือจากที่ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แล้ว เนื่องจากในช่วงระยะเวลาดังกล่าวบริษัทยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่นอกเหนือไปจากการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท
และกรณีการขายหุ้นของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยาก็มิใช่การดำเนินการใด ๆ ของบริษัทอันจะส่งผลให้บริษัทมีหน้าที่แจ้งพัฒนาการของบริษัทแต่อย่างใด
ต่อมาคณะกรรมการบริษัทได้รับทราบจากข่าวที่ข้าพเจ้าเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ว่าข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภริยาได้จำหน่ายหลักทรัพย์ของบริษัทออกไปจำนวนหนึ่งอันมีสาเหตุมาจากการโดน Forced Sell
ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 และครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระเกี่ยวกับการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับข้าพเจ้านั้น คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาข้อมูลการถือหุ้น และราคาหุ้นของบริษัทด้วยความระมัดระวัง รอบคอบก่อนที่จะพิจารณาลงมติให้นำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทอนุมัติในเรื่องดังกล่าวต่อไปตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมติคณะกรรมการและข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ของบริษัทที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทยึดถือเป็นภาระหน้าที่อันสำคัญที่จะต้องเปิดเผยให้แก่นักลงทุนผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องและก่อนที่จะมีการเปิดเผยมติต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลที่สำคัญของบริษัทผ่านตลาดหลักทรัพย์นั้น
คณะกรรมการได้กำหนดให้ฝ่ายบริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องของบริษัทปฏิบัติให้ถูกต้องและครบถ้วนตามสมควร เพื่อให้มั่นใจได้ว่า บริษัทได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนต่อผู้ลงทุน
อนึ่ง สำหรับการประชุมคณะกรรมการที่กล่าวถึงดังกล่าว มีเพียงวาระการเพิ่มทุนของบริษัท และวาระอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มทุนเท่านั้น หาได้มีวาระการประชุมเกี่ยวกับรายงานการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ถือครองโดยผู้บริหารและกรรมการของบริษัท
ซึ่งการรายงานการจำหน่ายหลักทรัพย์เป็นหน้าที่ตามกฎหมายของผู้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์อันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแต่อย่างใด
ในส่วนของการยื่นแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ล่าช้านั้น มีสาเหตุมาจากกรณีที่ข้าพเจ้ายังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัทที่ยังมีการตกลงอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลให้เกิดการโดน Forced Sell อีก ดังนั้น ข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา จึงยังมิได้ยื่นแบบ 59 ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ ข้าพเจ้าขอเรียนชี้แจงข้อมูลหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ที่แตกต่างระหว่างแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) กับสารสนเทศที่บริษัทแจ้งผ่านระบบ SETLink นั้น
ข้าพเจ้าขอเรียนว่า เนื่องจากข้อมูลที่บริษัทได้เผยแพร่ในสารสนเทศที่บริษัทแจ้งผ่านระบบ SETLink นั้น เป็นข้อมูลจำนวนหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้าและผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ซึ่งเป็นข้อมูลจากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2567 มิใช่ข้อมูลจำนวนหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้า ณ วันที่มีการเผยแพร่ข้อมูล (19 มิถุนายน 2567) ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ปรากฏจำนวนหุ้นคงเหลือของข้าพเจ้า จำนวน 10,000,000 หุ้น ในแบบ 59 นั้น เป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่เกิดขึ้นจากการที่ข้าพเจ้า มีการขายหุ้นของบริษัทเพิ่มเติมหลังวันที่ 6 มิถุนายน 2567 ซึ่งผ่านจากวันที่มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทล่าสุดไปแล้ว โดยในการนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและได้ดำเนินการดังนี้
1. กำชับให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมการรายงานตามแบบ 59 ให้ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริง
และ 2.กำชับให้ฝ่ายบริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องของบริษัทดำเนินการเผยแพร่สารสนเทศของบริษัทผ่านระบบ SETLink โดยแก้ไขข้อมูลจำนวนหุ้นคงเหลือของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยาให้ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในปัจจุบัน
ข้าพเจ้าขอเรียนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ด้วยความเคารพว่า ข้าพเจ้าในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัทได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัท และมติคณะกรรมการตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น มาโดยตลอด ทั้งนี้ ข้าพเจ้าไม่มีความตั้งใจในการกระทำการใด ๆ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และผู้ลงทุนแต่อย่างใด