หุ้นไทยอ่อนแอสุดในภูมิภาค ดิ่งเฉียด 7 จุด กลุ่ม EA ดิ่งหนัก 26% AOT-PTTEP-JMART ร่วงฉุดตลาด 

ความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 28 มิ.ย.2567 เวลา 10.10 น. ยังคงปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ปัจจัยภายในประเทศยังเป็นตัวกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยดัชนีอยู่ที่ 1,302.73 จุด หรือ ลดลงมา 6.73 จุด หรือ -0.51%

อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเขียวสดใส ขณะที่ตลาดหุ้นไทยสวนทางกลับปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนภาพรวมของตลาดหุ้นไทยมีความอ่อนแอเป็นพิเศษ

ทั้งนี้มองว่า พยายามอย่าให้ SET หลุด 1,300 จุด หากหลุด 1,300 จุด นักลงทุนจะไม่เชื่อ SET ว่าการรีบาวด์กลับมาจะสามารถยืนได้ และอาจจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมาแถวบริเวณเดิมที่ 1,280 จุดได้ และอาจจะมีการปรับลดลงไปจากเดิมได้ หากการเมืองยังคงไม่ชัดเจน 

ส่วนกรณีเช้านี้ที่มีการดีเบตของฝั่งสหรัฐที่จะมีการช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น มองว่าไม่น่าจะใช่ปัญหาหลักของดัชนีหุ้นไทย เพราะหากเทียบกับตลาดหุ้นภูมิภาคก็ยังเขียวสดใสได้อยู่  ขณะที่คืนนี้จะมีการประกาศตัวเลข PCE ของสหรัฐ ที่จะมีการประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด มองว่า มีความเกี่ยวข้องได้บ้างแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอเป็นพิเศษ หากเทียบกับตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ค่อนข้างบวก

ขณะที่หุ้น AOT ปรับลงมา 1.72% ราคาลดลง 1 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 57.25 บาท ซึ่งยังคงมีความกังวลในการคืนพื้นที่ แม้ว่าจะเป็นข่าวในช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา แต่ทว่า นักวิเคราะห์เริ่มมีการทยอยปรับลดกำไร รวมถึงเป้าหมายราคาหุ้นในช่วงนี้ จึงทำให้กดดันราคาหุ้นลงมาได้ นอกจากนี้ การท่องเที่ยวอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน จะทำให้มีโมเมนตัมในเชิงข่าวที่น้อยกว่าช่วงก่อนหน้านี้

ส่วนหุ้นกลุ่ม EA เป็นการปรับตัวลดลงมาจากปัจจัยเฉพาะตัวที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น หลังจากที่มีการถูกขายชอร์ตออกมา รวมถึงบัญชีมาร์จิน ที่ผู้บริหารมีการใช้วงเงินมาร์จินค่อนข้างสูง ส่งผลให้หุ้น NEX และ BYD ปรับตัวลงตามด้วยเช่นกัน  

โดยหุ้น EA ปรับลงมา 26% หรือราคาลดลง 3.90 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 11.10 บาท ขณะที่ หุ้น NEX ปรับตัวลงมา 14.52% หรือราคาลดลง 0.27 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.59 บาท และหุ้น BYD ปรับตัวลงมา 11.80% หรือราคาลดลง 0.19 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.42 บาท 

นอกจากนี้ หุ้น PTTEP ยังปรับตัวลงมา 1.30% หรือราคาลดลง 2 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 151.50 บาท ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า เกิดสาเหตุอะไร เพราะจะสวนทางกับราคาน้ำมันที่ซื้อขายในตลาดล่วงหน้าปรับตัวขึ้นอีกในเช้าวันนี้ อยู่ระดับ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในแง่ของ WTI ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 2 เดือน 

แต่อย่างไรก็ตาม โดยปกติเมื่อราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลงมาในอดีตส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการด้อยค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งมักจะเป็นเหตุผลหลักเสมอ ซึ่งอาจจะส่งผลให้งบการเงินไตรมาส 2/67 ออกมาไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากมีการด้อยค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศ แต่ยังคงต้องรอดูถึงความชัดเจนอีกครั้ง 

ขณะที่กลุ่ม JMART ปรับตัวลงมาเช่นกัน นำโดย JMT ปรับตัวลง 3.60% หรือราคาลดลง 0.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 13.40 บาท หุ้น JMART ปรับตัวลง 3.60% หรือราคาลดลง 0.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 13.40 บาท หุ้น SINGER ปรับตัวลง 2.17% หรือราคาลดลง 0.20 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 9.00 บาท และ SGC ปรับตัวลง 1.08% หรือราคาลดลง 0.02 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 1.84 บาท

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์