SAAM ยืนยันร่วมมือ YGG ต่อไป เร่งคลอดเกมให้ทันปลายปี 67
“เอสเอเอเอ็ม” ยังร่วมมือ “วายจีจี” เร่งคลอดเกมให้ทันปลายปี 67 โดยพร้อมหนุนทุกด้าน ส่วนในฐานะผู้ถือหุ้นสัดส่วน 0.54% จะไม่เข้าไปเก็บเพิ่ม ขณะที่หุ้น “เอสเอเอเอ็ม” ที่นำวางค้ำประกันในบัญชีมาร์จิน ยันไม่กลัวโดนถล่ม เผยถอนออกบางส่วนแล้ว และมีเงินสู้มากพอ
นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM ในฐานะบริษัทที่ร่วมลงทุนโครงการพัฒนาเกมกับ บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG รวมถึงในนามส่วนตัวเป็นผู้ถือหุ้นสัดส่วน 0.54% ใน YGG เปิดเผยว่า ไม่กังวลสถานการณ์ของบริษัทพันธมิตรที่หุ้นเพิ่งโดนขายจำนวนมาก โดยจะยังคงความร่วมมือระหว่างกันต่อไปผลักดันเกมรูปแบบเว็บ 3.0 ที่ร่วมกันพัฒนาออกมาให้บริการได้ช่วงปลายปี 2567
อีกทั้งจากการเจรจาส่วนตัวกับผู้ถือหุ้น-ผู้บริหารหลักของ YGG ได้แก่ นายธนัช จุวิวัฒน์ และนายศรุต ทับลอย แล้ว จึงมีความมั่นใจว่า YGG จะดำเนินการธุรกิจต่อไปได้ตามปกติ และประเมินกำไรทั้งปีมีโอกาสขยายตัวจากปีก่อนได้
“เราจะร่วมมือกันต่อไป ถ้ามีอะไรที่ฝั่งเราช่วยได้เราก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ในทุกด้าน แต่ผมจะไม่เข้าไปซื้อหุ้น YGG เพื่อเพิ่มสัดส่วนการเป็นเจ้าของบริษัท”
นอกจากนี้ กรณีที่ SAAM เป็น 1 ในหลักทรัพย์ที่วางเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้นสูงถึง 49.97% ณ ข้อมูล สิ้นเดือน พ.ค. 2567 ยอมรับว่า ราคาหุ้นของบริษัทได้รับผลกระทบบ้างจากความกังวลความเสี่ยงฟอร์ซเซล
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน หุ้นที่ถูกวางเป็นประกันลดลงในระดับที่เชื่อมั่นว่าปลอดภัย และโดยส่วนตัวยังมีทั้งหุ้น เงินสด และทรัพย์สินสภาพคล่องอื่นๆ มากพอจะบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
“ผมยอมรับว่าส่วนตัวมีหุ้นที่เอาไปวางมาร์จิน แต่ตอนนี้ส่วนที่เสี่ยงฟอร์ซเซลก็โดนขายไปหมดแล้ว และคนอื่นๆ ที่เอาหุ้น SAAM ไปวางมาร์จินผมก็ตรวจเช็กทั้งหมด จนเชื่อมั่นว่าต่อจากนี้จะไม่มีโดนเพิ่มแล้ว”
ขณะที่ วางเป้าหมายปี 2567 กำไรสุทธิรวมขยายตัวจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61.55 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักจากรายรับในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้ามาสม่ำเสมอ เสริมด้วยกำไรธุรกิจเกมซึ่งจะเปิดตัวปลายปีนี้ที่จะมากอย่างมีนัย
รวมถึงกำไรธุรกิจแพลตฟอร์มที่เข้าไปลงทุน 75 ล้านบาท ซื้อกิจการ บริษัท เอสเอ็ม ซิสเต็ม ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จากกลุ่มบริษัท มัลติ อินโนเวชั่น เอนยิเนียริ่ง จำกัด โดยคาดหวังรับรู้กำไรจากธุรกิจใหม่ 30 ล้านบาทต่อปีเป็นรายได้ประจำทันทีตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนในกิจการประเภทงานเอนเตอร์เทนเมนท์ อีเว้นท์ คาดหวังจะได้ข้อสรุปการเข้าลงทุนภายในปีนี้เช่นกัน