สัญญาณค่าบาทแข็งหนุน SET เปิดโผ 9 หุ้นเด่นจับจังหวะขาขึ้น

สัญญาณค่าบาทแข็งหนุน SET เปิดโผ 9 หุ้นเด่นจับจังหวะขาขึ้น

ค่าเงินบาทแข็งชัดจ่อหนุนหุ้นไทย "บล.เอเชีย พลัส" มองความคาดหวังเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งปีนี้ช่วยดูดเงินไหลเข้า ส่วน "บล.หยวนต้า" เปิดสถิติย้อน 10 ปี โอกาสตลาดฟื้นสูงมาก เปิดโผ 9 หุ้นเด่น ADVICE, SYNEX, COM7, GULF, BGRIM, GPSC, PTTGC , SCGP และ SABINA

ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนครึ่ง โดยการวิเคราะห์จาก กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets) ระบุว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วสอดคล้องสกุลอื่นในภูมิภาคเป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงพร้อม US Treasury yields ที่ลดลงกว่า 10 bps

ทั้งนี้โดยปกติแล้ว หากค่าเงินในประเทศขยับขึ้นย่อมเอื้อให้กระแสเงินทุนไหลเข้า ยังจะส่งผลดีทางตรงและทางอ้อมกับหุ้นไทยอีกด้วย

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ระบุว่า ความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด จะปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้งในปี 2567 น่าจะทำให้เงินบาทแข็งค่าและดึงดูดเม็ดเงินให้ไหลเข้ามาได้บางส่วน  
 

ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า รวบรวมข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 10 ปี ในรอบที่ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่า 2% มีทั้งหมด 20 ครั้ง เฉลี่ยค่าเงินบาทแข็งค่า ราว 4.9% และ SET Index ปรับตัวขึ้นเฉลยราว 7.2% ด้วยระดับความน่าจะเป็นที่สูงถึง 85% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นทุกอุตสาหกรรม โดยการแข็งค่าของค่าเงินบาททุกๆ 3% จะส่งผลต่อดัชนีราว 20 จุด

บริษัทในตลาดหุ้นไทยที่ทำการศึกษา (Coverage ) คาดได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า ได้แก่

1. ค้าปลีกสินค้าไอที : ได้ประโยชน์จากต้นทุนการนำเข้าสินค้าในราคาที่ต่ำลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ได้แก่ ADVICE, SYNEX และ COM7

2. โรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า รวมถึงโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่มีหนี้สิน และดอกเบี้ยจ่ายเป็นสกุลเงินดอลลาร์ จึงได้ประโยชน์เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่า ได้แก่ GULF, BGRIM และ GPSC

3. อื่นๆ PTTGC (มีหนี้สินเป็นสกุลเงินต่างประเทศ 45%), SCGP (ต้นทุนอ้างอิงราคาดอลลาร์สหรัฐฯ) และ SABINA (สัดส่วนนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศราว 60%)