AQUA ดันธุรกิจอาหารโตเท่าตัวปี 68 รายได้แตะ 2,000 ล้านบาท
AQUA ชูธงธุรกิจอาหารภายใต้ FAB ดันพอร์ตใหญ่หนุนรายได้ปี 67 แตะ1,000 ล้านบาท และปี 68 โตเท่าตัว 2,000 ล้านบาท สามารถรับรู้กำไรได้ทันที จากรายได้ 8 แบรนด์ ทะลุ 1,600 ล้านบาท และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยตั้งเป้าขยายแบรนด์เดิมยังไม่ลงทุนเพิ่ม
นายฉาย บุนนาค รักษาการประะธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ AQUA เปิดเผย ถึงธุรกิจใหม่ภายใต้ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ด โฮลดิ้ง จำกัด หรือ FAB ดำเนินธุรกิจอาหารทางบริษัทลงทุนถือหุ้น 51% มีมูลค่าเงินลงทุน 1,275 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 2,500 ล้านบาทจะเป็นการเปลี่ยนแปลง new s curve ของบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอาหารขึ้นมาเป็นรายได้หลักและสามารถทำกำไรได้ทันที ซึ่งคาดว่าดีลลงทุนจะแล้วเสร็จเดือนต.ค.นี้และรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2567
“ธุรกิจอาหารเป็นพอร์ตรายได้หลักของบริษัท ด้วย 8 แบรนด์ จำนวน 240 สาขา ร้านอาหารที่นำเข้ามาล้วนมีกำไรหมดทุกแบรนด์ ยิ่งทางกลุ่มบุญรอดมีแบรนด์อาหารจำนวนมาก มีกลุ่มใบหยกที่เชี่ยวชาญเข้ามาบริหารแค่ทำให้มีความน่าสนใจจับตลาดลูกค้ากลุ่มใหญ่ ร้านแมสมากขึ้นจะเห็นการเติบโตทันที ซึ่งปีนี้จะขยายและปรับจากแบรนด์ที่มีอยู่ก่อนจะพิจาณาเพิ่มลงทุน ”
นาย ชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ AQUA กล่าวว่า ธุรกิจอาหารเข้ามีสัดส่วนรายได้เป็น 70-60% ส่วนธุรกิจคลังสินค้าอยู่ที่15 % โลจิสติกส์ 15 % และที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากหลังรวมกันแล้วจะมีรายได้เข้ามาทันทีไตรมาส 4 ปี 67 ประมาณ 300- 400ล้านบาท ส่งผลทำให้รายได้รวมปีนี้เป็น 1,000 ล้านบาท และหากเต็มปีรายได้ของ 8 แบรนด์อยู่ที่ 1,600 -1,700ล้านบาทมีอัตรากำไรสูงเป็นเลขสองหลัก
จากการถึงจุดคุ้มทุนได้ทันทีไตรมาส 4 ปี67 เพราะแต่ละแบรนด์มีกำไรอยู่แล้ว บวกกับการลดต้นทุนด้านซัพพรายอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทยังมีรายได้ประจำจากธุรกิจคลังสินค้าที่พึ่งทำสัญญา 7 ปี มูลค่า 1,700 ล้านบาททยอยรับรู้รายได้ปีละ 200 ล้านบาท ส่งผลทำให้คาดปี 2568 บริษัทจะมีรายได้ 2,000 กว่าล้านบาทและรับรู้กำไรจากธุรกิจอาหาร
สำหรับแหล่งเงินทุนการลงทุนครั้งนี้มาจากเงินสด การขายสินทรัพย์และเงินลงทุนก่อนหน้านี้เช่น ป้ายโฆษณา และเงินกู้ ซึ่งบริษัทยังมีความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน ล่าสุดได้จ่ายคืนหุ้นกู้ไปเรียบร้อยแล้ว 629 ล้านบาทและเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่มูลค่า 600 ล้านบาทอายุ 2ปี 9เดือน อัตราดอกเบี้ย 7-7.2% ประมาณช่วงต้นส.ค. นี้
“หลังลงทุนในธุรกิจอาหาร AQUA จะมีพอร์ตรายได้ 2 กลุ่ม คือธุรกิจเงินสดเข้ามาเป็นรายได้ประจำประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อปี และธุรกิจอาหารแบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ สเต็ก อาหารไทย อิซากะยะ และราเมน ซึ่งการได้ทั้งกลุ่มบุญรอดและใบหยกเข้ามาร่วมลงทุนสินค้ามีความแข็งแกร่งต้องมีการปรับด้านมาร์เก็ตติ้งการทำแบรนด์ให้แข็งแกร่งและยังไม่มีแผนลงทุนซื้อแบรนด์เพิ่มตอนนี้”
สำรับการร่วมลงทุนใน FAB ถือหุ้น 51 % กลุ่มบุญรอด บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ถือหุ้น 40% และ“เบียร์ ” ปิยะเลิศ ใบหยก รองประธานกลุ่มโรงแรมใบหยก ถือหุ้น 9%