AQUA โชว์ผลการดำเนินงานปี 2566 รายได้โต 924 ล้านบาท
บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมมีรายได้จากการดำเนินงานและเข้าลงทุนจำนวน 924.18 ล้านบาท โตขึ้น 8.7% จากปีก่อนหน้า
นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เผยว่า แม้บริษัทฯ รับรู้การขาดทุนทางบัญชีจากบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้น 40.63% จำนวน 189.1 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบที่สำคัญจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2566 ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิคงเหลือมูลค่า 19.4 ล้านบาท แต่ทางผู้บริหารได้มีแนวทางในการจัดการผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวแล้ว และไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนของ AQUA แต่อย่างใด ทั้งนี้ การเติบโตที่ชัดเจนของ AQUA ในปี 2566 มาจากการเริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความหลากหลาย เพื่อแสวงหารายได้และกระจายความเสี่ยงต่อการลงทุนจากธุรกิจเพียงประเภทเดียว ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นเป็นตัวเลขอย่างน่าประทับใจ โดยบริษัทฯ สามารถทำกำไร/ขาดทุนสุทธิก่อนส่วนแบ่งจากเงินลงทุนในบริษัทฯ ร่วมตามวิธีส่วนได้เสีย จำนวน 204.30 ล้านบาท หรือ 22.1% จากกลยุทธ์สร้างธุรกิจ cash cow ของเรา โดยมีธุรกิจเด่น ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในรูปแบบศูนย์ Rehab Center และ Warehouse ให้เช่า พร้อมสัญญาระยะยาว และกลุ่มธุรกิจอาหาร นำโดยร้าน Ramen Desu ที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
"เรายังคงปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การจัดสรรและบริหารงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แข็งแกร่งมากขึ้น ช่วงไตรมาสที่ 2/2567 บริษัทฯเตรียมจัดแถลงแผนธุรกิจเพื่อแสดงถึงโครงสร้างใหม่ที่ชัดเจน รวมถึงอัปเดตความคืบหน้าการทำดีลใหม่ 2-3 รายการ ที่จะมาเพิ่มศักยภาพให้กับทั้งกลุ่ม AQUA โดยเรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมของทั้งกลุ่มให้เติบโตขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ตั้งเป้าสร้างรายได้ราว 800-900 ล้านบาท"
นาย ชัยพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีแผนจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนซึ่งเป็นหุ้นที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อคืนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 200,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.38 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด (ทุนชำระแล้ว ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567) ระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม 2567 ด้วยวิธีเสนอขายจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายหลักทรัพย์ ราคาที่จะจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนต้องไม่น้อยกว่าราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้านั้นหักด้วยจำนวนร้อยละ 15 ของราคาปิดเฉลี่ยดังกล่าว