'แบงก์ชาติจีน'เซอร์ไพรส์! ลดดอกเบี้ยรอบ 2 ในสัปดาห์นี้ แต่หุ้นจีนยังดิ่งหนัก
’ธนาคารกลางจีน‘ประกาศลด‘ดอกเบี้ย’ อีก0.2% สู่ระดับ 2.3% เป็นครั้งที่ 2 ของสัปดาห์นี้ ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้น'จีน-ฮ่องกง'ยังดิ่งหนัก กดดันดัชนี CSI 300 ร่วงกว่า 2%
KEY
POINTS
- PBOC ลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) 1 ปีลง 0.2% สู่ระดับ 2.3% หลังจากลดดอกเบี้ยไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อวันจันทร์(22 ก.ค.67)ที่ผ่านมา
- นักวิเคราะห์กังวลเศรษฐกิจจีนอาจเผชิญกับภาวะชะลอตัวอีกครั้ง
- ดัชนี CSI 300 ร่วงลงมากกว่า 2% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า "ธนาคารกลางจีน" (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) 1 ปีลง 0.2% สู่ระดับ 2.3% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยรอบที่ 2 ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากมีการประกาศลดดอกเบี้ยไปเมื่อวันจันทร์(22 ก.ค.67)ที่ผ่านมา ธนาคารกลางเพิ่งจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repos ประเภท 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น (short-term policy rate) ลง 0.10%
มาร์โค ซัน หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดการเงิน ธนาคาร MUFG แสดงความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจเผชิญกับภาวะชะลอตัวอีกครั้ง โดยอ้างอิงจากตัวเลขการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 2 ที่ชะลอตัวลง และการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLF เป็นมาตรการหนึ่งที่ธนาคารกลางจีนใช้เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการบริโภค เพื่อรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
แต่ขณะเดียวกันปริมาณเงินกู้ MLF ที่กำลังจะครบกำหนดชำระในอนาคตอันใกล้ อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้ธนาคารกลางจีนต้องดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารขนาดใหญ่ของจีนหลายแห่งนำโดยธนาคารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ICBC) ได้ลด “อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก” ระยะเวลา 2 ปีขึ้นไป ลดลงถึง 0.2% ลงอยู่ในช่วง 1.45%-1.8% เพื่อบรรเทาแรงกดดันต่ออัตรากำไร หลังจากรัฐบาลมีมาตรการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนหน้านี้
สืบเนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ถูกลง ทำให้ตอนนี้ธนาคารจีนจึงปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากด้วย เพื่อลดต้นทุนและให้กู้เงินได้มากขึ้น
ที่ผ่านมาธนาคารจีนได้ลดดอกเบี้ยเงินฝากอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2565 โดยมีการปรับลดถึง 3 ครั้งในปีเดียว ซึ่งเป็นการปรับลดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่สุดในรอบหลายปี
ดัชนี CSI 300 ดิ่งกว่า 2%
ด้านตลาดหุ้นจีนทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องโดยดัชนี CSI 300 ร่วงลงมากกว่า 2% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 เดือน นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและวัสดุในภาคอุตสาหกรรมที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดในเดือนนี้
ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวลดลง แม้ว่าธนาคารกลางมีการประกาศ“ลดดอกเบี้ย”แล้วก็ตาม สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม สาเหตุหลักมาจากการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้ราคาสินแร่สำคัญในภาคอุตสาหกรรมอย่างเหล็กและทองแดง ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
ในขณะเดียวกัน จีนอาจกำลังเก็บงำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้เพื่อเตรียมรับมือกับ“สงครามการค้า” หาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีนี้
แอนดรูว์ ทิลตัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ประจำเอเชียแปซิฟิกระบุว่า หากเป็นเช่นนั้นจะทำให้จีนใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รุนแรงมากขึ้น หากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงขึ้น
