MGI กำไร Q2/67 แตะ 58.9 ล้าน บวก 32.5% จ่อทุ่ม 60 ล้าน รุกจิวเวลรี่-คลินิกเวชกรรม

MGI กำไร Q2/67 แตะ 58.9 ล้าน บวก 32.5% จ่อทุ่ม 60 ล้าน รุกจิวเวลรี่-คลินิกเวชกรรม

"ณวัฒน์" เผยมติบอร์ด "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" เตรียมลงทุนในธุรกิจค้าเครื่องประดับอัญมณีวงเงินไม่เกิน 30 ล้าน และลงทุนตั้งคลินิกเวชกรรมวงเงินไม่เกิน 30 ล้าน พร้อมกันนี้โชว์กำไรสุทธิ Q2/67 แตะ 58.9 ล้าน พุ่ง 32.5% หลังขายสินค้าได้มากขึ้น ช่องทาง TikTok ช่วยหนุน

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MGI) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2567 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 อนุมัติเรื่องการเข้าลงทุนในธุรกิจค้าเครื่องประดับที่ทำจากเพชร พลอย อัญมณีมีค่า และธุรกิจเวชกรรมคลินิก ดังนี้

รายการที่ 1 อนุมัติการลงทุนในธุรกิจค้าเครื่องประดับ ที่ทำจากเพชร พลอย อัญมณีมีค่า ในลักษณะเป็นหน่วยธุรกิจของบริษัทหรือจัดตั้งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยหากเป็นในกรณีตั้งบริษัทย่อย ทาง MGI จะเข้าถือหุ้น 100% แต่ถ้าเป็นกรณีจัดตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน ทาง MGI จะเข้าไปร่วมลงทุนสัดส่วน 55% และมีผู้ร่วมลงทุนอื่นถือหุ้น 45%

กำหนดทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5.50 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียน 24.50 ล้านบาท โดยรวมเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท แหล่งเงินลงทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท

รายการที่ 2 จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจเวชกรรมคลินิกในลักษณะจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทโดย MGI ถือหุ้น 100%

กำหนดทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียน 29 ล้านบาท โดยรวมเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท แหล่งเงินลงทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท
 

ขณะที่ นายศักดิ์สิทธิ์ บุญวานิช ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน MGI ยังได้เปิดเผย ผลการดำเนินงานงบการเงินไตรมาสที่ 2/2567 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 58.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2566 ที่ทำได้ 44.44 ล้านบาท

รวม 6 เดือนแรกปี 2567 เท่ากับ 80.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 52.09 ล้านบาท
 

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการระบุว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 58.93 ล้านบาท และ 80.13 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2567 และงวด 6 เดือนแรกปี 2567 ตามลำดับ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.59 และร้อยละ 34.98 จากไตรมาส 2 ปี 2566 และงวด 6 เดือนแรกปี 2566 เนื่องจากธุรกิจพาณิชย์ของบริษัทเติบโตขึ้นจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ ขายสินค้าของบริษัทได้มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งการจำหน่ายผ่านช่องทาง TikTok มีการตอบรับอย่างดี

รวมถึงธุรกิจ สื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการ ศิลปิน มีการเติบโตขึ้น เนื่องจากการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนปี 2024 เสร็จสิ้น บริษัทจึงได้ศิลปินเพิ่มอีกจำนวน 10 คน ทั้งนี้ศิลปินเดิมก็ยังคงมีรายได้อย่างต่อเนื่อง