BCP กำไร Q2/67 ที่ 1.8 พันล้าน บวก 298% Inventory Gain หนุน ผนวกรับรู้ขายโรงไฟฟ้า
"บางจาก คอร์ปอเรชั่น" เผยกำไรสุทธิ Q2/67 บวก 298% อยู่ที่ 1,823.74 ล้าน รายได้รวมขยายตัว 132% แตะ 158,057 ล้าน โดยไตรมาสนี้มีกำไร Inventory Gain 810 ล้าน และรับรู้กำไรจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น 2,159 ล้าน
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบการเงินไตรมาสที่ 2/2567 กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่เท่ากับ 1,823.74 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 2/2566 ที่ทำได้ 458.06 ล้านบาท
รวม 6 เดือนแรกปี 2567 เท่ากับ 4,260.52 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 3,199.05 ล้านบาท
รายงานการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานระบุว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2567 กลุ่มบริษัทบางจาก มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 158,057 ล้านบาท (+17% QoQ, +>100%YoY) และมี EBITDA 10,764 ล้านบาท (-30% QoQ, +62% YoY) โดยกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ได้รับแรงกดดันจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับลดลงต่อเนื่อง จากอุปสงค์ทั่วโลกถูกกดดันภายใต้เศรษฐกิจอ่อนแอ ส่งผลให้ Operating GRM ปรับตัวลดลง
ประกอบกับอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปรับลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงตามวาระของโรงกลั่นพระโขนง ในขณะที่โรงกลั่นศรีราชามีอัตรากำลังการผลิตสูงสุดสร้างสถิติใหม่อยู่ที่ 154.2 KBD เข้ามาช่วยหนุนอัตรากำลังการผลิตรวมของกลุ่ม
ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรง หนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นส่งผลให้กลุ่มบริษัทบางจาก มี Inventory Gain 810 ล้านบาท (รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV) )
สำหรับ กลุ่มธุรกิจการตลาด เนื่องด้วยบริษัทมีการบริหารจัดการการจำหน่ายในช่วงการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นพระโขนง บริษัทจึงได้เลือกจำหน่ายผลิตภัณฑ์และช่องทางที่มีค่าการตลาดเหมาะสม ส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายรวมของกลุ่มธุรกิจการเล็กน้อย แต่มีค่าการตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ แม้ว่าปริมาณการขายปรับเพิ่มขึ้นขึ้น แต่มีปัจจัยกดดันจาก Spread ระหว่างราคาขายและต้นทุนวัตถุดิบที่อ่อนตัว
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีปริมาณการจำหน่ายที่ลดลงเนื่องจากมีปริมาณการจำหน่ายน้อยกว่ากำลังผลิตตามสัญญา (Underlift) ประกอบกับการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของแหล่งผลิต Statfjord A เป็นระยะเวลา 60 วัน
และกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มีการรับรู้กำไรหลังหักภาษีจากการจำหน่ายไปซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 9 โครงการ 2,159 ล้านบาท
ส่งผลให้ BCP มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 1,824 ล้านบาท (-25% QoQ, +>100% YoY) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.23 บาท