WARRIX เผย Q2/67 รายได้ 350 ล้าน โต 36.7% ยอดขายขยายตัวทุกช่องทาง
"วอริกซ์ สปอร์ต" รายได้ไตรมาส 2/67 ทำได้ 350 ล้าน โต 36.7% เสื้อโปโลขายดี รายได้ขยายตัวทุกช่องทาง ออนไลน์ และช่องทางขายโครงการโดดเด่น
นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จํากัด (มหาชน) (WARRIX) แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า งบการเงินไตรมาสที่ 2/2567 รายได้จากการขายและบริการในไตรมาส 2/2567 จำนวน 350.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.73% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ และช่องทางขายโครงการ (Project Based) มีการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสำคัญ
กลุ่มสินค้า Non-Licensed เช่น กลุ่มสินค้าคลาสสิค อาทิ เสื้อโปโล เป็นสินค้าขายดีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทสามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น มีเพียงพอสำหรับชายผ่านทุกช่องทางได้อย่างต่อเนื่อง และสินค้าทำตามคำสั่ง (Made to Order) ซึ่งเป็นการขายโครงการที่มียอดซื้อปริมาณมาก
อีกทั้ง มีการเติบโตของยอดขายกลุ่มสินค้า Licensed เช่น สินค้าทีมชาติ ซึ่งได้รับความนิยมตามกระแสฟุตบอลทีมชาติไทย และมีจำนวนรายการแข่งขันมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เช่น รายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ในเดือนมิถุนายน รวมถึงมีการเติบโตของยอดขายสินค้าสโมสรฟุตบอล เนื่องจากลุ่มสโมสรฟุตบอลต่างประเทศมีการซื้อขายตามสัญญา
ในภาพรวมมีการเติบโตของยอดขายสินค้าผ่านทั้งช่องทางการขายทั้งแบบ Non-owned และ Owned Channel โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 38% และ 62% ตามลำดับ
ช่องทางห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ (Modern Trade) มีการเปิดจุดขายใหม่ และขอพื้นที่เสริมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสการขายสินค้าใหม่ และระบายสินค้าเก่า
ร้านค้าของบริษัท (Shop) มียอดขายเติบโตจากจุดขายเดิม และจากการเปิดสาขาใหม่ โดยมีการเปิดสาขาใหม่ในครึ่งแรกของปี 2567 เพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ Warrix Shop Terminal 21 Korat, Warrix Shop Terminal 21 Pattaya, Warrix Shop Futurepark Rungsit
อีกทั้งมีงานออกร้านจัดรายการสินค้างานแสดงต่างๆ (Retail) เนื่องจากมีการเพิ่มพื้นที่งานออกร้านจัดรายการ และมีการขายหน้าสนามฟุตบอลที่มีจำนวนผู้ชมเต็มสนาม
ช่องทางออนไลน์ (Online Channel) มีการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ TikTok ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ตามกระแสความนิยมซื้อสินค้าผ่าน Live เช่นเดียวกับ Shopee ที่มีการเติบโตของยอดขายจาก Short Video และ Live เช่นกัน รวมถึง Website ของบริษัทที่มีสินค้าใหม่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
การขายในต่างประเทศ (Inter Sales) เริ่มมียอดขายจากลูกค้าตัวแทนจำหน่ายในประเทศเมียนมาร์ และมีการขายสินค้าทำตามคำสั่งให้กับองค์กรในต่างประเทศมากขึ้น
การขายโครงการ (Project Based) เติบโตขึ้นเนื่องจากมีลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งลูกค้าองค์กรเอกชน หน่วยงานภาครัฐและเป็นการสั่งซื้อปริมาณมาก
สำหรับ งวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 677.84 ล้านบาท เติบโตขึ้น 33.08% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 เนื่องจากมีการเติบโตของรายได้เกือบทุกช่องทางการขายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางออนไลน์ ในแง่ของสินค้า กลุ่มสินค้าคลาสสิค เช่น เสื้อโปโล มีรายได้เติบโตมากที่สุด
ในภาพรวมมีการเติบโตของยอดขายสินค้าผ่านทั้งช่องทางการขายทั้งแบบ Non-owned และ Owned Channel โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 39% และ 61% ตามลําดับ ได้แก่ ช่องทางห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกชื่อ ร้านค้าของบริษัท งานออกร้านจัดรายการสินค้า/งานแสดงต่างๆ ช่องทางออนไลน์ การขายในต่างประเทศ การขายโครงการ และช่องทางร้านค้าทั่วไป ซึ่งมีสินค้าใหม่ที่ตรงความต้องการของลูกค้า
และบริษัทมีนโยบายควบคุมราคาตลาดเพื่อสร้างสมดุลในทุกช่องทาง ประกอบกับมีปัจจัยบวกสนับสนุนการเติบโต เช่น มีรายการแข่งขันฟุตบอลของทีมชาติไทยที่มีกระแสอย่างต่อเนื่อง การที่รัฐบาลเชิญชวนให้สวมใส่เสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ฯ และงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ 2024