Nvidia ขึ้นแท่น 'หุ้นสำคัญที่สุดของโลก' ตลาดคาดหวังผลประกอบการ Q2

Nvidia ขึ้นแท่น 'หุ้นสำคัญที่สุดของโลก' ตลาดคาดหวังผลประกอบการ Q2

Nvidia ขึ้นแท่น 'หุ้นสำคัญที่สุดของโลก' นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการไตรมาส 2 วันนี้(28 ส.ค.) โตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 หลังบิ้กเทคยักษ์ใหญ่รายงานต้นทุนชิปสร้าง AI จาก Nvidia

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า “หุ้นอินวิเดียNvidia บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) กำลังกลายเป็นหุ้นที่สำคัญที่สุดในโลกและทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังกับผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีงบประมาณปี 2568  

นักวิเคราะห์จาก  LSEG คาดว่า Nvidia จะเติบโต ต่อเนื่อง 3 หลัก ติดต่อกัน 4 ไตรมาส โดยคาดว่าจะเติบโต 112% ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่เป็นอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs กังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของการลงทุนในเทคโนโลยีระดับสูง (ไฮเปอร์สเกล) เนื่องจากอัตราการเติบโตที่รวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา

เอริก แจ็คสัน จาก EMJ Capital มองว่า Nvidia เป็นหุ้นที่สำคัญที่สุดในโลกตอนนี้เลยทีเดียว และถ้าผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างมาก เขาเชื่อว่า Nvidia อาจสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับนักลงทุนได้

บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายอื่น ๆ ได้ผ่านการรายงานผลประกอบการ ก่อนการประกาศผลประกอบการของ Nvidia  โดยชื่อของบริษัทถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในระหว่างการประชุมและจากนักวิเคราะห์ เนื่องจาก Microsoft, Alphabet, Meta, Amazon และ Tesla ต่างก็ใช้จ่ายอย่างมากกับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ของ Nvidia เพื่อฝึกโมเดล AI และดำเนินการงานขนาดใหญ่

จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ว่าลูกค้ารายใหญ่ยังคงมีความต้องการใช้จ่ายเพื่อขยายศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้เทคโนโลยีของ Nvidia กลายเป็นแรงหนุนหลักที่ทำให้ราคาหุ้นของ Nvidia พุ่งสูงขึ้นเกือบ 10% ในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

ทั้ง Google และ Meta ได้แสดงความต้องการให้มีการผลิตโปรเซสเซอร์ในปริมาณที่มากขึ้น โดย CEO ของทั้งสองบริษัทมองว่าการลงทุนในด้านนี้จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สะท้อนผ่านการลงทุนโดย อดีตซีอีโอของ Google อย่าง Eric Schmidt เผยว่าบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต้องการโปรเซสเซอร์มูลค่า 2 หมื่นล้าน 5 หมื่นล้าน หรือ 1 แสนล้านเหรียญ

จับตาผลประกอบการ

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของ Nvidia พุ่งสูงขึ้นเกือบ 9 เท่า ขับเคลื่อนโดยความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ทว่าความสำเร็จดังกล่าวกลับกลายเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา Nvidia เคยขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แต่ไม่นานนักราคาหุ้นก็ร่วงลงอย่างหนักถึง 30% ภายในเวลาเพียง 7 สัปดาห์ ส่งผลให้บริษัทสูญเสียมูลค่าตลาดไปกว่า 800,000 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนของตลาดหุ้นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

จนถึงตอนนี้ราคาหุ้นของ Nvidia กำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวขึ้น แต่ยังไม่สามารถกลับไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาลได้

ขณะเดียวกันนักลงทุนเองก็กำลังจับตาผลประกอบการรายไตรมาสที่จะประกาศในวันนี้ (28 ส.ค.) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความกังวลว่าหากผลประกอบการออกมาไม่เป็นไปตามคาด หรือมีสัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ลดลง หรือลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มคลาวด์กำลังรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย อาจส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง

อ้างอิง CNBC