9 หุ้น SET100 ปันผลสูงเกิน 5% ผลงานดีงบครึ่งปียังเติบโต

งบครึ่งปีแรก 2567 ทยอยประกาศกันไปเกือบครบทุกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว และถ้าโฟกัสไปที่ดัชนี SET100 ที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น 100 ตัวแรกที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุด มีสภาพคล่องสูง มักเป็นบริษัทขนาดใหญ่และกลางที่เติบโตสูง พบว่าส่วนใหญ่งบครึ่งปีแรก 2567 ออกมาเป็นทีjน่าพอใจ สะท้อนถึงประสิทธิ์ภาพในการดำเนินงานอย่างมีคุณภาพ และถ้านำปัจจัยเรื่องอัตราเงินปันผลตอบแทน มาเปรียบเทียบด้วยแล้ว

โดย “กรุงเทพธุรกิจ” พบ 10 บริษัทในดัชนี SET100 ที่มีอัตรางินปันผลสูงตอบแทนเกิน 5% และผลงานดีงบครึ่งปียังเติบโตอย่างน่าสนใจ

1.บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) OSP

• หมวดธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม
• เงินปันผล YTD 7.24%
• ผลตอบแทนราคา YTD +3.64%
• กำไรครึ่งปีแรก 1,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.93% 

2.บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ICHI 

• หมวดธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม
• เงินปันผล YTD 7.14%
• ผลตอบแทนราคา YTD -10.83%
• กำไรครึ่งปีแรก 742.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.59%

3.บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP    

• หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค
• เงินปันผล YTD 6.60%
• ผลตอบแทนราคา YTD -3.68%
• กำไรครึ่งปีแรก 42,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.80%

4.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP

• หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค
• เงินปันผล YTD 6.45%
• ผลตอบแทนราคา YTD -1.86%
• กำไรครึ่งปีแรก 11,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.19%

5.บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) TCAP

• หมวดธุรกิจ ธนาคาร
• เงินปันผล YTD 6.40%
• ผลตอบแทนราคา YTD +1.01%
• กำไรครึ่งปีแรก 3,688 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.88%

6.บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) TLI

• หมวดธุรกิจ ประกันภัยและประกันชีวิต
• เงินปันผล YTD 6.33%
• ผลตอบแทนราคา YTD -13.66%
• กำไรครึ่งปีแรก 5,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.63%

7.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT

• หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค
• เงินปันผล YTD 5.76%
• ผลตอบแทนราคา YTD -2.80%
• กำไรครึ่งปีแรก 64,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.35%

8.บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) BCP  

• หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค
• เงินปันผล YTD 5.44%
• ผลตอบแทนราคา YTD -15.52%
• กำไรครึ่งปีแรก 4,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.18%

9.บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) RATCH

• หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค
• เงินปันผล YTD 5.20%
• ผลตอบแทนราคา YTD -2.38%
• กำไรครึ่งปีแรก 3,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.13%

อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกจะเห็นหลายกลุ่มมีการทำกำไรได้ค่อนข้างดี โดยกลุ่มพลังงานได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในช่วงที่เหลือของปีอาจจะกลับด้านกัน ราคาน้ำมันช่วงนี้เริ่มปรับตัวลง ขณะที่หุ้นส่งออกครึ่งปีแรกมีการขยายตัวดีที่เกี่ยวกับอาหาร แต่ขณะนี้ภาพอาจจะเปลี่ยนหลังจากที่เงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงดีมานด์จากต่างประเทศมีสัญญาณชะลอ บวกกับเป็นช่วง soft ของกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/67 ที่จะมียอดขายน้อยที่สุด หรือต่ำที่สุดถ้าเทีียบกับไตรมาสอื่น ๆ 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือเอินนิ่งโมเมนตัมเริ่มชะลอตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกจึงต้องมีการลดสัดส่วนในการถือครองในหุ้นอาหารลง และเน้นลงทุนในหุ้นเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น ตามนโยบายภาครัฐที่กระตุ้นเศรษฐกิจ

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ครึ่งปีแรกงบบริษัทจดทะเบียนมีการเติบโตดี กลุ่มเกษตร น้ำมัน ก๊าซ ปิโตรเคมี และสื่อสาร ในไตรมาส 2/67  โดยกลุ่มเกษตรมาจากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น ต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง ส่วนน้ำมันและก๊าซมาจากสต๊อกน้ำมันบางส่วน ขณะที่กลุ่มไอซีทีถือว่าเยี่ยมสุดสามารถปรับราคาขายขึ้นได้ในแง่ราคาเฉลี่ยต่อหมายเลข และการแข่งขันลดลง 

ส่วนที่ยังทำได้ไม่ดีคือ กลุ่มไฟแนนซ์ รับเหมา โรงแรม อสังหาฯ เพราะฉะนั้นภาพรวมต่อจากนี้่ ในกลุ่มที่ผลงานออกมาไม่ค่อยดีจะค่อย ๆ เริ่มฟื้น โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมา หลังจากงบประมาณปี 2567 มีการเร่งเบิกจ่ายในช่วงปลายเดือนเม.ย. 2567 ส่งผลให้ หุ้น STEC กับ CK ได้รับอานิสงส์เชิงบวก ขณะที่หุ้น อสังหาฯ อาจจะต้องรอไปก่อน ส่วนกลุ่มโรงแรมกำลังเข้าสู่ฤดูกาลไฮซีซั่นไตรมาส 4/67

โดยภาพรวมช่วงที่เหลือของปี 2567 กลุ่มที่จะกลับมาได้คือ ก่อสร้าง สื่อสาร อาหาร เกษตร จะส่งผลดีต่อในไตรมาส 3/67 ส่วนกลุ่มส่งออกอาจจะประสบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่า และพอหมดฤดูกาลไฮซีซั่นในไตรมาส 4/67 อาจจะเริ่มอ่อนตัวลงไป 

“ช่วงที่เหลือของปี กลุ่มไหนที่ดีในช่วงครึ่งปีแรกก็ยังดีเหมือนเดิม เกษตร สื่อสาร น้ำมัน ก๊าซ ส่วนตัวที่กลับจากแย่เป็นดีคือ ก่อสร้าง และจากดีเป็นแย่ในช่วงที่เหลือคือส่งออก”

ทั้งนี้ หากนักลงทุนมีหุ้นส่งออก อาจจะต้องชะลอเข้าลงทุนเช่น HANA KCE TU DELTA สามารถลงทุนแบบเทรดดิ้งได้ และหันมาลงทุนหุ้นกลุ่มในประเทศมากขึ้น เช่น CRC LH KLINIQ  BBL เป็นต้น