‘ต่างชาติ’ อัปเป้าดัชนีหุ้นไทย ‘โกลด์แมน แซคส์’ เพิ่มทะลุ 1,550 จุด รับ ‘กองทุนวายุภักษ์’ หนุน
“โกลด์แมน แซคส์” ปรับเพิ่มเป้าดัชนีหุ้นไทยเป็น 1,550 จุด เดิม 1,450 จุด รับปัจจัยบวก “วายุภักษ์” หนุนฟันด์โฟลว์ไหลกลับ “เฟสโก้” เผย “ไอเอเอ” จ่อปรับดัชนีฯ ใหม่ปลายปีนี้ สะท้อนพื้นฐานจริง - การเมืองคลี่คลาย ด้าน "โบรกเกอร์ไทย" ต่างยังคงเป้าหมายเดิมที่ดัชนี 1,420 - 1,536 จุด รอดูปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะแนวโน้ม “เฟด” ลดดอกเบี้ยช่วงกลางเดือนก.ย.นี้
หลังจากการเมือง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากขึ้น “ดัชนีหุ้นไทย” ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 100 จุด หนึ่งปัจจัยที่เป็นแรงหนุน คงต้องยกให้ “กองทุนวายุภักษ์” ส่งผลให้เริ่มเห็นเหล่านักวิเคราะห์ทั้งไทย และต่างชาติ มีการออกมาปรับประมาณการดัชนีหุ้นไทยกันแล้ว แม้ว่ายังมีปัจจัยภายนอกให้เฝ้าจับตาอย่าง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงกลางเดือนก.ย.นี้ จึงทำให้บางโบรกเกอร์มีการเฝ้าติดตามเพื่อปรับเป้าประมาณการอีกครั้ง
โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐปรับน้ำหนักตลาดหุ้นไทย จาก Underweight เป็น Market weight เป็น Market Weight และเป้า SET Index ขึ้นเป็น 1,550 จุด จาก 1,450 จุด ปัจจัยหนุนคือ กองทุนวายุภักษ์ ส่งผลบวกเชิงบรรยากาศลงทุน (Sentiment) และมูลค่าการซื้อขายส่งผลให้ต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทย
สอดคล้องกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า หลังจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาระดับ 1,420 จุด ถือว่าดัชนีฯ สามารถขึ้นมาทะลุคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยไตรมาส 3 ปี 2567 ของสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ที่ 1,379 จุด ไปแล้ว ดังนั้น ทาง IAA เตรียมปรับเป้าหมายใหม่คาดการณ์ดัชนีฯ สิ้นปีนี้เพิ่มขึ้น จากเดิม (ณ ก.ค.2567) คาดไว้ที่ 1,460 จุด ซึ่งดัชนีระดับฯ 1,460 จุด ถือว่าหากดัชนีปรับขึ้นมาระดับนี้ สะท้อนปัจจัยฟื้นฐานจริงๆ หลังซบเซามานาน และความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศคลี่คลาย
ทั้งนี้ ระยะถัดไปหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกสนับสนุน ทั้งเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดมาระดับหนึ่งแล้ว และกำลังฟื้นตัวขึ้นตามเศรษฐกิจโลกเข้าสู่การฟื้นตัว ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยพร้อมกับธนาคารกลางทั่วโลกลดดอกเบี้ย ซึ่งมองเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยไม่น่ากังวล เพราะเป็นการถดถอยที่ไม่ลึก และไม่ยาวนาน คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดจีดีพียังขยายตัวได้ 3% บวกลบ
“ช่วงที่เหลือปีนี้เศรษฐกิจไทย มีแรงขับเคลื่อน ปลายปี ส่งออกกลับมาโตดีท่องเที่ยวบูม รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และดึงดูดการลงทุนเอกชนเริ่มกลับมา หลังจากนั้นยังฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่การฟื้นตัวเช่นกัน และกำไรสุทธิ บจ. ครึ่งปีแรก เพิ่ม 10% ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ไม่แย่พร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าต่อไป”
ด้านเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ทยอยไหลเข้าต่อเนื่องได้ ในเดือนปลายเดือนส.ค.และช่วงเดือนก.ย. ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิระดับหมื่นล้านบาทแล้ว แต่จากต้นปีมานี้ยังเป็นแรงขายสุทธิกว่าแสนล้านบาท แต่หากสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ จากรัฐบาลสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่แถลงไว้ได้ ซึ่งต้องให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้เข้ามาทำงานก่อน
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้ตั้งเป้าดัชนีหุ้นไทยไว้ที่ 1,536 จุด เป็นการสะท้อนภาพของ EPS ปีนี้ที่ระดับประมาณ 96 บาท หากดูที่ EPS ในปีหน้า จะอยู่ที่ประมาณ 100 บาทกว่า ดัชนีหุ้นไทยปีหน้าคาดว่าจะอยู่สูงเกิน 1,536 จุดขึ้นไป ซึ่งยังไม่ได้มีการปรับเป้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งยังคงเป็นเป้าหมายเดิม
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ปีนี้ยังคงเป้าไว้ที่เดิม 1,500 จุด และคาดยังคงเป็นไปได้สำหรับปีนี้ เนื่องจากมีกองทุนวายุภักษ์ และนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตน่าจะเดินหน้าได้ จึงทำให้มีอัปไซด์ขึ้นมา โดยมองว่า ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีเป็นไปได้ที่ระดับ 1,500 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ช่วงนี้หุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งมาจากเสถียรภาพทางการเมือง การเข้ามาของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ทำให้มีความคาดหวัง เนื่องจากมี ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นที่ปรึกษาที่ดี ทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่น เนื่องจากในสมัยที่ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ผลงานในอดีตค่อนข้างดี สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยในช่วงต้มยำกุ้งให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง และหลังจากนั้นเศรษฐกิจไทยก็ค่อยๆ ฟื้นได้ดี ประกอบกับ ทักษิณ เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจาก ADVANC จึงทำให้ตลาดเกิดความคาดหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ โดยบริษัทตั้งเป้าดัชนีไว้ที่ 1,530 จุด ซึ่งยังคงเป็นเป้าหมายเดิม ซึ่งมองว่า เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างไปได้ ในช่วงสิ้นปีนี้
นายกรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดค่อนข้างดีใจการมาของกองทุนวายุภักษ์ และกองทุน TESG มีอัปไซด์ต่อตลาดน่าจะประมาณ 70 จุด ในไตรมาส 4 ปี 2567 แต่ทว่าประเด็นดังกล่าวมีการรับรู้ไประดับหนึ่งแล้วจากที่มีการปรับขึ้นมาเกือบ 100 จุดแล้ว บริษัทยังคงไม่ได้มีการปรับประมาณการดัชนีหุ้นไทย แต่ยังคงเป้าหมายเดิมที่ 1,420 จุด แต่ก็ยังอยู่ในช่วงอยู่ระหว่างการปรับประมาณการ แต่ถ้าเศรษฐกิจมหภาคเข้ามาช่วยอาจจะไปแตะที่ 1450-1500 จุด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์