เปิดโผ 30 หุ้น รับอานิสงส์ แจกเงินหมื่น 'เปราะบาง' 25 ก.ย.นี้ พายุหมุน 1.45 แสนล้าน

เปิดโผ 30 หุ้น รับอานิสงส์ แจกเงินหมื่น 'เปราะบาง' 25 ก.ย.นี้ พายุหมุน 1.45 แสนล้าน

เปิดโผ 30 หุ้น รับอานิสงส์ แจกเงินหมื่น กลุ่มเปราะบาง 25 ก.ย.67นี้ พายุหมุน 1.45 แสนล้าน หุ้นกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว และไฟแนนซ์ประโยชน์สูงสุด

นับถอยหลัง 25 ก.ย.2567 กลุ่มเปราะบาง หรือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ เตรียมรับเงิน 10,000 บาท จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ 

โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตโดยไม่จำกัดประเภทร้านค้า เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ ตลอดจนเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ และกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

ซึ่งมาตรการของรัฐดังกล่าวนี้ส่งผลดีต่อหุ้น 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจกว่า 1.45 แสนล้านบาท

ภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาพรวมของการแจกเงินในกับกลุ่มรากหญ้าจะเข้ามาในวันแรกที่ 25 ก.ย.2567 ซึ่งต้องมาดูความต่อเนื่องของโครงการดังกล่าวจะมีมาต่อในช่วงไตรมาส 4/67 อย่างไร แต่เชื่อว่า จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ในไตรมาส 3/67 ซึ่งรัฐบาลมีการคาดการณ์ว่า จีดีพีจะโตได้ถึง 3% และภาพรวมของเศรษฐกิจมีโอกาสเติบโตขึ้นแบบขั้นบันไดด้วย

สำหรับหุ้นที่จะได้รับประโยชน์เป็นหุ้นที่อิงกับรายได้ที่มาจากฐานรากเป็นหลัก ได้แก่ กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มท่องเที่ยว แต่โดยหลักๆ จะเน้นไปที่กลุ่มไฟแนนซ์มากกว่า เนื่องจากจะมีการปรับขึ้นค่าแรงเพิ่มขึ้นด้วย ก็จะได้รับอานิสงส์ 2 เด้ง  

โดยกลุ่มไฟแนนซ์ที่น่าสนใจคือ KTC AEONTS MTC SAWAD และ TIDLOR ส่วนกลุ่มค้าปลีกที่ได้รับประโยชน์ได้แก่ CPAXTT BJC TNP CPALL และ CRC 

ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงส์นี้เช่นกัน เพราะว่าจะสามารถนำเงินที่ได้ไปท่องเที่ยวในประเทศได้ ดังนั้นจึงเป็นการกระตุ้นเชิงเซนทิเมนต์ต่อการท่องเที่ยวได้ ได้หุ้นที่ได้รับประโยชน์หลักๆ จะเป็นหุ้น ERW เนื่องจากมีโรงแรมอยู่ทั่วประเทศ และราคาไม่สูงมาก รวมถึงหุ้น CENTEL และเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 4/67 จะเป็นช่วง Golden Week ประจำปีของคนจีนจะหยุดยาวทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าว นักลงทุนยังสามารถเข้าไปลงทุนได้ น่าจะ Outperform กว่า SET 

อย่างไรก็ตาม ถัดจากมาตรการดังกล่าว จะได้เห็นมาตรการ การขึ้นค่าแรง รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง น่าจะเป็นตัวหนุนให้กลุ่มไฟแนนซ์ขยับขึ้นได้ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินลดลง เวลาวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงเข้ามา คาดว่า กนง. น่าจะมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้สักครั้งหนึ่งในช่วงที่เหลือของปีที่มีการคาดหวังกันไว้ เนื่องจากบอนด์ยีลด์ไทย ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว อยู่ที่ 2.5% 

อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กลุ่มหลักๆ ยังคงเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ ยังคงเป็นกลุ่มค้าปลีก เช่น หุ้น CPALL BJC ที่จะนำไปจับจ่ายใช้สอยได้ 

นอกจากนี้เนื่องจากเป็นการแจกเงินสดกลุ่มไฟแนนซ์เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้มีการจับจ่ายใช้สอย แต่จะได้รับอานิสงส์จากกลุ่มเปราะบางที่อาจจะนำเงินสดที่ได้ตรงนี้ไปใช้ในการชำระหนี้ได้ ประกอบกับกลุ่มไฟแนนซ์ที่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ทำให้เซนทิเมนต์ส่งมาในกลุ่มนี้ด้วย 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มไฟแนนซ์ ยังคงต้องรอลุ้น และติดตาม ว่า กนง.ในเดือนหน้านี้ มติจะออกเป็นเช่นไร ซึ่งคาดว่า ในรอบหน้าอาจจะมีเสียงอยากให้ลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นก็เป็นได้ จึงทำให้คาดว่า จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้กับกลุ่มไฟแนนซ์ 

ทั้งนี้ในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ที่น่าสนใจมองว่า เป็นหุ้น MTC ได้รับประโยชน์จากสินเชื่อที่ยังมีการเติบโตได้ค่อนข้างดี รวมถึงหนี้มีการควบคุมได้ดีเช่นกัน ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่ของ MTC เป็นการปล่อยสินเชื่อให้กับระดับล่าง และ AEONTS ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บัตรประมาณ 60% จะอยู่ในต่างจังหวัดระดับล่าง และเมื่อเม็ดเงินไปสู่ระดับล่างกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์มากกว่า 

"กรุงเทพธุรกิจ" ได้ทำการสำรวจ 3 กลุ่มหุ้นทั้ง กลุ่มค้าปลีก กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มท่องเที่ยว ตั้งแต่ช่วง 1 เดือนและ 3 เดือนส่วนใหญ่ผลตอบแทนราคาค่อนข้างบวก (ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ 23 ก.ย.2567)  

10 หุ้นกลุ่มค้าปลีก ผลตอบแทนราคา 1 เดือน และ 3 เดือนเป็นบวกมีดังนี้ 

1.บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) HMPRO

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 25.30%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 18.86% 

2.บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) CRC 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 21.82%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 17.54%      

3.บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) BJC

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 17.96%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 17.96%

4.บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) ADVICE 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 17.31%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 43.81%

5.บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) CPAXTT

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 12.07%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 21.50%   

6.บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) COM7 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 10.18%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 50.91%

7.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) CPALL 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 10.17%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 19.82%       

8.บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) GLOBAL  

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 8.39%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 3.33%

9.บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) MOSHI 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 6.36%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 1.10%       

10.บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) DOHOME 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 2.78%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 14.43%        

 

10 หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ผลตอบแทนราคา 1 เดือน และ 3 เดือนเป็นบวกมีดังนี้ 

1.บริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) MICRO

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 91.00%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 6.11%

2.บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ASK

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 45.00%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 6.62%

3.บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) HENG

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 43.80%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 50.00%

4.บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) SCAP

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 35.20%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 55.13%

5.บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) TIDLOR 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 33.10%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 2.72%

6.บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) BAM 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 30.20%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 28.48%

7.บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) CHAYO                    

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 29.81%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 26.67%

8.บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SAWAD

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 25.18%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 25.18%

9.บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) AEONTS  

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 21.89%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 9.23%

10.บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTC     

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 16.67%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 9.88%

 

10 หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ผลตอบแทนราคา 1 เดือน และ 3 เดือน มีทั้งบวกและลบ ดังนี้

1.บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) GRAND 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 33.33%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 33.33%

2.บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) SHR

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 26.09%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 14.85%

3.บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) DUSIT 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 22.22%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 14.15%

4.บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) CENTEL

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 21.71%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน -0.63%

5.บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ERW

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 18.68%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน -4.85%

6.บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) BEYOND

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 18.67%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 10.06%

7.บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT  

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 9.52%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน -4.17%

8.บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) SPA

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 7.41%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 7.41%

9.บริษัท โอเอชทีแอล จำกัด (มหาชน) OHTL

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 5.80%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 3.23%             

10.บริษัท เอเชียโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) ASIA 

  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน 4.65%
  • ผลตอบแทนราคา 3 เดือน 6.30%    

เปิดโผ 30 หุ้น รับอานิสงส์ แจกเงินหมื่น \'เปราะบาง\' 25 ก.ย.นี้ พายุหมุน 1.45 แสนล้าน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์