13 หุ้นอสังหาฯ กอดคอร่วง โบรก แนะ 'หลีกเลี่ยง' ย้ายลงทุนกลุ่มแบงก์ โรงไฟฟ้า ปันผลสูง
13 หุ้นอสังหาฯ กอดคอร่วง หุ้น PF ดิ่งนำกลุ่ม 6.67% โบรก แนะ 'หลีกเลี่ยง' ย้ายลงทุนกลุ่มแบงก์ KTB และ โรงไฟฟ้า WHAUP ปันผลสูง เหตุ Outlook fundamental กำไรอ่อนแอ
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 27 ธ.ค.67 เวลา 10.05 น. หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ปรับตัวลงยกแผง นำโดย
หุ้น PF ร่วง 6.67% ราคาลดลง 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.14 บาท
หุ้น RICHY ร่วง 2.44% ราคาลดลง 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.40 บาท
หุ้น SC ร่วง 1.45% ราคาลดลง 0.04 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.72 บาท
หุ้น PSH ร่วง 1.24% ราคาลดลง 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 7.95 บาท
หุ้น SPALI ร่วง 1.10% ราคาลดลง 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 17.90 บาท
หุ้น BRI ร่วง 1.07% ราคาลดลง 0.04 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 3.70 บาท
หุ้น LH ร่วง 0.99% ราคาลดลง 0.05 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 5.00 บาท
หุ้น SENA ร่วง 0.89% ราคาลดลง 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.22 บาท
หุ้น LALIN ร่วง 0.83% ราคาลดลง 0.05 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 6.00 บาท
หุ้น LPN ร่วง 0.82% ราคาลดลง 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.42 บาท
หุ้น PROUD ร่วง 0.78% ราคาลดลง 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.27 บาท
หุ้น NOBLE ร่วง 0.74% ราคาลดลง 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.70 บาท
หุ้น ORI ร่วง 0.53% ราคาลดลง 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 3.72 บาท
พิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บล.บัวหลวง เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาพรวมกลุ่มอสังหาฯ Outlook fundamental กำไรค่อนข้างอ่อนแอ ในอนาคต Outlook ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากในกลุ่มนี้มีการเชื่อมโยงกับการบริโภคภายในประเทศ ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนสูงมาก รวมถึงหนี้เสียที่ยังสูงมากเช่นกัน เพราะฉะนั้น fundamental ไม่มีปัจจัยเข้ามาช่วยหนุนในกลุ่มนี้เลย
"ปัจจัยหนุนจะมีแค่ช่วงระยะสั้น ๆ แค่ Dividend เท่านั้น ถ้า ณ ปัจจุบัน นักลงทุนควรหันไปลงทุนในกลุ่มธนาคารแทน เพราะได้ในเรื่องของ Dividend เช่นกัน เช่น KTB หรือกลุ่มโรงไฟฟ้า WHAUP ปันผลค่อนข้างสูง 4-5% บวกกับได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตมีต่อ ฉะนั้นโรงไฟฟ้าที่อยู่ในนิคมฯ เพราะกลุ่มอสังหายังคงดูไม่สดใส"
โดยแนะนำนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงในกลุ่มอสังหาฯ เพราะมองว่า เศรษฐกิจปี 2568 จะชะลอตัวมากกว่าปี 2567 จากปัญหาหนี้ครัวเรือน แม้ว่าภาครัฐจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะได้ประโยชน์ค่อนข้างน้อย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่จะนำไปจับจ่ายในสินค้าที่จำเป็นก่อน ขณะที่สินค้าใหญ่ อย่างอสังหาฯ ยังคงเป็นตัวเลือกหลัง ๆ จึงทำให้ตลาดอสังหาฯ ยังไม่ค่อยดี นอกจากนี้ดีมานด์ ยังอ่อนแอ ซัพพลายยังค้างอยู่ จึงยังไม่เห็นสัญญาณในการฟื้นตัวอันใกล้
