หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.) ปิดตลาดร่วง 12.11 จุด โรงไฟฟ้าฉุดดัชนีฯ ทักษิณ ชงลดค่าไฟ

หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.) ปิดตลาดร่วง 12.11 จุด โรงไฟฟ้าฉุดดัชนีฯ ทักษิณ ชงลดค่าไฟ

“หุ้นไทยวันนี้” (6 ม.ค.68) ปิด ตลาดหุ้นไทย เย็นอยู่ที่ 1,372.65 จุด ลบ 12.11 จุด หรือ 0.87% โบรกฯ ชี้ หุ้นไทยปิดตลาดลบเพราะกลุ่มโรงไฟฟ้าตอบรับข่าวร้ายทักษิณชงลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย คาดพรุ่งนี้แกว่ง 1,360 - 1,370 จุด

“หุ้นไทยวันนี้” (6 ม.ค.68) ความเคลื่อนไหว ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,372.65 จุด ลบ 12.11 จุด หรือ 0.87% โดย ตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลงเกือบทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,370.69 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,390.84 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,198.49 ล้านบาท

หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.) ปิดตลาดร่วง 12.11 จุด โรงไฟฟ้าฉุดดัชนีฯ ทักษิณ ชงลดค่าไฟ ภาวะหุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.)

หุ้นไทยวันนี้ (6 ม.ค.68) ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1.KBANK มูลค่า 2,351.35 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 2.27%

2. GULF มูลค่า 1,729.75 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 56.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.17%

3. BBL มูลค่า 1,602.87 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.66%

4. KTB มูลค่า 1,561.87 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 21.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.47%      

5. PTTEP มูลค่า 1,381.30 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.21%              

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบทั้งวันเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ามีความต้องการปรับลดค่าไฟลงมาอยู่ที่ 3.70 บาทต่อหน่วย ทำให้หุ้นโรงไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็น GPSC BGRIM และ GULF ปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน

รวมทั้งหุ้นกลุ่มสื่อสารก็ฉุดดัชนีฯ  เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามูลค่าหุ้น (Valuation) อยู่ในระดับสูงทำให้นักลงทุนเริ่มขายเพื่อทำกำไร อย่างไรก็ตามกลุ่มที่ดึงดัชนีฯ ขึ้นวันนี้คือการเก็งกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก่อนที่จะประกาศผลประกอบการ

ทั้งนี้ นายวิจิตร  มองว่า ดัชนีหุ้นไทย วันพรุ่งนี้ มีแนวโน้มแกว่งในกรอบ 1,360 - 1,370 จุดแบบทรงตัวเพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด

สำหรับคำแนะนำในการลงทุนคือให้มองหาหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการจะออกมาสดใส นั้นคือ MASTER ที่คาดว่ากำไรไตรมาส 4 จะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 200 ล้านบาท และหุ้น AU ก็มีแนวโน้มทำผลประกอบการดีเช่นเดียวกัน